ความคิดสร้างสรรค์เป็นส่วนหนึ่งของทักษะทางสมองที่สำคัญต่อการใช้ชีวิต (Executive Functions หรือ EF) ซึ่งสามารถพัฒนาได้ดีที่สุดในวัยเด็ก โดยเฉพาะจากกิจกรรม เช่น การเล่นและการใช้ศิลปะทุกแขนง คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรกำหนดหรือตีกรอบการใช้จินตนาการของลูก แต่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้มีอิสระทางความคิดอย่างเต็มที่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะสมองของลูกต่อไป
ถึงแม้ว่าการกำหนดหรือตีกรอบขอบเขตของคุณพ่อคุณแม่จะมาจากความหวังดีและเป็นห่วงลูกก็ตาม แต่บางครั้งกรอบนั้นอาจเป็นการไปขัดขวางความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของลูกได้ดังนั้นลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่า ‘ความหวังดี’ ที่เรามอบให้ลูกนั้น มีพฤติกรรมอะไรที่อาจจะเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูกโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ตัว
1. สอนให้ลูกรู้ว่าทำแล้วจะได้รางวัล
เพราะเด็กเป็นวัยขี้เบื่อ เมื่อต้องทำอะไรบ่อยๆ หรือทำเป็นประจำก็จะเริ่มเบื่อหน่ายและงอแงไม่อยากทำต่อ คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มใช้วิธีเอารางวัลมาเป็นข้อต่อรอง เช่น บอกให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จแล้วจะให้รางวัลเป็นการพาไปซื้อขนม
วิธีนี้ถ้านำมาใช้บ่อยเกินไป จะทำให้ลูกใช้ความพยายามทำตามข้อต่อรอง เพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนเท่านั้น แต่ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กๆ จะถูกปิดกั้น เพราะไม่มีแรงจูงใจอื่นนอกจากการทำเพื่อแลกกับของรางวัล
2. ไม่ให้ลูกฝึกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ความหวังดีและเป็นห่วงลูก ทำให้คุณพ่อคุณแม่อยากที่จะอยู่เคียงข้างและช่วยลูกแก้ปัญหาทุกอย่าง แต่การคอยจัดการหรือยื่นมือเข้าช่วยเหลือลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกไม่ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาและมองไม่เห็นถึงความผิดพลาดของตัวเอง ทำให้โอกาสที่จะได้คิดวิเคราะห์ถูกปิดกั้น ในอนาคตอาจทำให้ลูกเกิดความไม่มั่นใจ ไม่กล้าคิดอะไรนอกกรอบและลดความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
3. มีทางเลือกให้ลูกอย่างจำกัด
การสอนที่ทำให้เด็กเข้าใจว่า คำตอบที่ถูกต้องมีเพียงข้อเดียวอาจเป็นการปิดโอกาสการเรียนรู้ของลูกได้ ดังนั้นเมื่อลูกเกิดคำถาม สงสัย หรืออยากทำอะไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหาคำตอบที่หลากหลายเพื่อเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูก หรือเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองหาคำตอบด้วยตัวเอง หรือเสนอทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อไม่ให้เป็นการตีกรอบความคิดของลูกมากเกินไป เพราะการที่ลูกได้ลองคิดหาคำตอบเอง จะทำให้เขาเกิดความมั่นใจและความภูมิใจในตัวเองด้วยค่ะ
4. กฎเกณฑ์ที่มี มากเกินไปหรือเปล่า?
การที่คุณพ่อคุณแม่เคร่งครัดเรื่องระเบียบวินัยเป็นเรื่องดี แต่หากเข้มงวดมากเกินไป อาจเป็นการตีกรอบทางความคิดของลูกโดยไม่รู้ตัว เพราะความเข้มงวดของคุณพ่อคุณแม่อาจทำให้ลูกไม่กล้าแสดงความคิดเห็น หรือเสนอความคิดใหม่ๆ เพราะกลัวว่าคุณพ่อคุณแม่จะดุ ส่งผลให้ลูกกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง และไม่สามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่
COMMENTS ARE OFF THIS POST