แม่ๆ หลายคนน่าจะเคยประสบปัญหา อยากให้สามีช่วยเลี้ยงลูก แต่เอ่ยปากทีไรก็เหมือนเรากลายเป็นคนขี้บ่น งอแง และน่ารำคาญ จนกลายเป็นการกระทบกระทั่งและลงท้ายด้วยการทะเลาะกันไปในที่สุด

จึงกลายเป็นปัญหาที่บรรดาคุณแม่หลายคนต้องเผชิญ เพราะเลี้ยงลูกเป็นงานที่เหนื่อย และคงอดไม่ได้ที่จะ อยากให้สามีช่วยเลี้ยงลูก แต่ก็ยังคงหาทางออกหรือวิธีขอความร่วมมือจากคุณพ่อไม่ได้สักที

วันนี้เราลองมาช่วยกันหากลยุทธ์การเจรจาให้สามีลองช่วยเลี้ยงลูกหรือแบ่งเบาภาระหน้าที่ของคุณแม่

1. ทบทวนว่าทำไมถึงอยากมีลูก

ลองหาเวลาว่าง ตอนสามีอารมณ์ดี มาระลึกความหลังว่าทำไมเราถึงอยากมีลูก ตอนนั้นเราเตรียมตัวว่าจะรับมือกับเจ้าตัวเล็กนี่ยังไง และอาจลองให้คุณพ่อช่วยออกความเห็นว่ายังมีอะไรที่อยากส่งเสริมหรือเพิ่มเติมให้ลูกอีกหรือไม่ เช่น พ่อคิดว่าลูกเริ่มติดแม่มากเกินไปหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นพ่อควรหาเวลาเล่นกับลูกมากขึ้นดีไหม…

เพื่อเปิดโอกาสให้คุณพ่อทบทวนถึงตอนที่ตัดสินใจและต้องการมีลูก รวมถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองที่มีต่อลูกว่าเพียงพอหรือไม่ และอยากที่จะเพิ่มเติมหรือเปล่า เพราะเราเชื่อว่าลึกๆ แล้วคุณพ่อไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้คุณแม่เหนื่อยกับเลี้ยงลูกตามลำพัง เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป คุณพ่อก็อาจจะละเลยและหลงลืมความตั้งใจอันดีของตัวเองก่อนมีลูกไปบ้างเท่านั้นเองค่ะ

2. พูดถึงบทบาทความสำคัญของคุณพ่อ

คุณแม่ควรทำให้คุณพ่อเข้าใจว่า สำหรับลูกแล้ว ไม่ใช่แค่แม่คนเดียวที่สามารถเป็น Role Model ให้ลูกได้ แต่คุณพ่อเองก็มีอิทธิพลกับการเติบโตของลูกเช่นกัน

ดังนั้น พ่อแม่อยากให้ลูกเติบโตอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องช่วยกันปลูกฝังและขัดเกลา เพื่อให้ลูกซึมซับ และยึดคุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างต่อไป

และที่สำคัญ สำหรับครอบครัวที่มีลูกสาว คุณพ่อยังเป็นต้นแบบในการเลือกคบเพื่อนผู้ชาย และคนรักในอนาคตอีกด้วย

3. ทำให้การเลี้ยงลูกเป็นงานกลุ่มของครอบครัว

เพื่อสร้างการรับรู้ว่างานเลี้ยงลูกไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง คุณแม่อาจจะลองมอบหมายหน้าที่ง่ายๆ ให้คุณพ่อช่วยแบ่งเบาภาระในบางเวลา เช่น ถ้าคุณแม่ทำอาหาร ลองบอกให้คุณพ่อใช้เวลาช่วงนั้นพาลูกไปอาบน้ำแต่งตัว หรือเล่นของเล่นเป็นเพื่อนลูก

เพราะบางครั้งคุณพ่ออาจจะต้องการให้คุณแม่ช่วยบอกว่าอยากให้ทำอะไร ดังนั้นการตกลงและมอบหมายหน้าที่ให้เหมือนกำลังทำงานกลุ่มของครอบครัวนี่แหละค่ะ ที่จะช่วยให้คุณพ่อเข้ามามีบทบาทกับการเลี้ยงลูกมากยิ่งขึ้น

4. ชื่นชมและให้กำลังใจคุณพ่อ

การพูดคุยและขอความช่วยเหลือจำเป็นต้องใช้ศิลปะการพูดเชิงบวก ถ้าคุณแม่ไม่อยากให้การขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อกลายเป็นประเด็นให้ทะเลาะหรือผิดใจกันภายหลัง ก็อย่าลืมให้กำลังใจและชื่นชมในสิ่งที่คุณพ่อทำ ไม่ว่าผลลัพธ์มันอาจจะไม่เรียบร้อยอย่างที่คิด เช่น ปล่อยให้ลูกเล่นของเล่นโดยไม่เก็บ หรือทำห้องน้ำเปียกเลอะเทอะไปหมด ก็ขอให้รู้ว่าคุณพ่ออาจจะพยายามรับมือกับลูกเต็มที่แล้วก็ได้

ดังนั้น เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว คุณแม่ควรให้กำลังใจ ชื่นชม และขอบคุณที่คุณพ่อลองเข้ามามีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูกมากขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณพ่อพยายามทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไปนะคะ

อ้างอิง
ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย
thematter
Tiscowealth
Psychologist Cafe’
Toolmorrow