แคทเธอรีน รัสเซลล์ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปิดเผยตัวเลขของเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในยูเครน โดยในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ มีเด็กที่ต้องอพยพหนีภัยสงครามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วกว่า 1 ล้านคน ขณะที่มีรายงานเด็กเสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 37 ศพ และบาดเจ็บอีกราว 50 คน 

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ระบุว่า เธอรู้สึกตกใจจากรายงานที่ได้รับว่ามีการโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมาริอูโปลของยูเครน โดยใช้การโจมตีทางอากาศจนฝังร่างคนไข้อยู่ใต้ซากปรักหักพัง ทั้งๆ ที่มีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ซึ่งถ้ารายงานการโจมตีครั้งนี้เป็นความจริง จะยิ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความเลวร้ายของสงครามที่มีผลกระทบต่อเด็กยูเครนและครอบครัว

เหตุระเบิดที่ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เรียกว่าเป็นความโหดร้าย เกิดขึ้นทั้งๆ ที่มีข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว เพื่อให้พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่สู้รบสามารถหลบหนีออกจากเมืองได้

สภาเมืองมาริอูโปล ระบุว่า โรงพยาบาลถูกโจมตีทางอากาศหลายต่อหลายครั้ง ทำให้อาคารได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่ นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกของรัฐบาลรัสเซีย ยืนยันว่า กองกำลังรัสเซียไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพลเรือนแต่อย่างใด

นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพลเรือนชาวยูเครนรวมกว่า 2 ล้านคนแล้วที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เนื่องจากทางการยูเครนมีคำสั่งห้ามผู้ชายออกนอกประเทศเพื่อเป็นกำลังเสริมในการสู้รบ

ขณะที่รัสเซียยังคงเรียกการบุกเข้าโจมตียูเครนครั้งนี้ว่า เป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เพื่อปลดอาวุธและขับไล่ผู้นำกลุ่มนีโอ นาซีที่เป็นภัยคุกคาม ซึ่งสงครามครั้งนี้ส่งผลให้รัสเซียต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหลายด้าน และถูกรุมประณามโดยนานาชาติ อย่างสหรัฐฯ ที่สั่งแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ในขณะที่บริษัทใหญ่ของชาติตะวันตกอีกจำนวนมากต่างประกาศถอนตัวออกจากตลาดของรัสเซียไปแล้ว

อ้างอิง
thairath