คุณแม่รายหนึ่งโพสต์เรื่องราวของลูกชายอายุ 4 ขวบ เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง จังหวัดตรัง 1 คืน ด้วยไข้หวัดธรรมดา แต่หมอและพยาบาลฉีดยาผิดประเภท เอายาพ่นมาฉีดเข้าเส้นเลือด จนเด็กมีเลือดออกทางปาก ช็อก ตาลอย สาหัส
หมอและพยาบาลช่วยกันในห้องฉุกเฉินนาน 4 ขั่วโมง น้องไม่ดีขึ้น ต้องส่งตัวต่อไปถึง 3 โรงพยาบาล โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในจังหวัดตรัง ชี้แจงสาเหตุว่า ยาออกฤทธิ์มากไป ซึ่งบิดเบือนความจริง จนตอนหลังโรงพยาบาลยอมรับว่า หมอสั่งยาผ่านระบบ แต่ระบบขัดข้อง เลยทำให้คำสั่งผิดพลาด พยาบาลที่ฉีดยาให้น้องไม่ใช่พยาบาลของโรงพยาบาล แต่เป็นพยาบาลพาร์ตไทม์ ยาตามคำสั่งหมอ คือ ให้ใช้พ่น แต่เอามาฉีดเข้าเส้นเลือด (ทำให้ยาเกินขนาด) ตอนนี้น้องอาการดีขึ้นแล้ว แต่ครอบครัวอยากให้สื่อช่วยกระตุ้นความรับผิดของโรงพยาบาล
ล่าสุด แม่ของน้องวัย 4 ขวบ ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า น้องมีอาการไข้ และไอ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดตรัง พยาบาลฉีดยา 1 เข็ม แจ้งว่าเป็นอะดรีนาลีน 2 มิลลิกรัม เพื่อช่วยให้หลอดลมน้องขยายตัว เมื่อฉีดเข้าไปน้องก็ช็อกและน็อกไปเลย และอ้วกเป็นเลือด
แม่เด็กเล่าต่อว่า หมอบอกว่า น้องอาการไม่ดีขึ้น ต้องส่งต่อไปอีก 2 โรงพยาบาล จากนั้นได้ผ่าปอดขวาเพื่อใส่สายยางช่วยระบายอากาศในปอด น้องอยู่ในห้องไอซียู 12 วัน หมอสรุปอาการที่เจอ คือ
1. หัวใจวายเฉียบพลันที่มีเลือดออกในปอด
2. อะดรีนาลีนเกินขนาด
3. ติดเชื้อในทางเดินหายใจ
4. สายตาเอียง
5. กล้ามเนื้อของหัวใจหดตัวไม่ดี
6. ระบบครึ่งซีกของหน้าทำงานไม่ปกติ
7. โพแทสเซียมสูง
หลังจากนั้นออกมาพักฟื้นต่อที่บ้าน แต่มีผลข้างเคียง คือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจหอบง่าย เหนื่อยง่าย ช่วงที่น้องรักษาตัวต้องพักเรียน 1 ปี หมอไม่สามารถระบุได้ว่าน้องจะหายตอนไหน หรือจะหายหรือเปล่า ก่อนหน้านี้คุยกับโรงพยาบาล มีข้อเสนอรักษาฟรี 2 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมีค่าเงินสินไหมทดแทน 870,000 กว่าบาท แต่สุดท้ายครอบครัวไม่ได้รับความช่วยเหลือเลย
COMMENTS ARE OFF THIS POST