หลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลียเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย แนวร่วมกลุ่มเคลื่อนไหวนักเรียนนักศึกษา รวมทั้งคนหนุ่มสาวสมาชิกสหภาพแรงงาน และชาวออสเตรเลียชนพื้นเมืองอะบอริจินส์ รวมตัวชุมนุมบริเวณหน้าบ้านพักประจำตำแหน่ง ของนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ในเมืองซิดนีย์ เพื่อกระตุ้นรัฐบาลให้ดำเนินการอย่างจริงจังมากกว่าเดิม ในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ ภาวะโลกร้อน

ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นร้อนแรง ทางการเมืองในออสเตรเลีย เนื่องจากออสเตรเลียเป็นประเทศผู้ผลิตถ่านหินและก๊าซรายใหญ่ของโลก และถูกวิจารณ์มานานว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดในโลก

รัฐบาลออสเตรเลียประกาศตั้งเป้าหมาย การปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 แต่นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า เป้าหมายตั้งไว้นานเกินไป

ทางด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ซึ่งไม่ได้อยู่ในบ้านพัก ระหว่างการชุมนุมประท้วง ได้มีการกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลก็กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ในหลายด้าน ไม่ใช่แค่เพียงลดการปล่อยก๊าซ แต่ยังรวมถึงการสร้างความยืดหยุ่น และการปรับตัวรับมือกับปัญหา

ผู้เชี่ยวชาญภูมิอากาศ กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย เกี่ยวโยงกับปรากฏการณ์ ลานีญา ส่วนคณะกรรมการสอบสวนเหตุไฟป่า ครั้งร้ายแรงที่สุดในยุคปัจจุบันของออสเตรเลีย ในปี 2562 และ 2563 ระบุสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากภาวะโลกร้อน พร้อมกับเตือน สภาพอากาศรุนแรงสุดขีด มีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกบ่อยครั้ง จากผลพวงภาวะโลกร้อนเช่นกัน

อ้างอิง
dailynews