ย้อนกลับไปเมื่อ 30 เมษายน 2563 กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ยื่นฟ้องกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนกฎทรงผมนักเรียน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการขัดต่อสิทธิในร่างกายและละเมิดร่างกาย
ต่อมา วันที่ 24 มกราคม 2566 กลุ่มนักเรียนเลวก็ได้รวมตัวกันไปยื่นหนังสือต่อ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอให้กระทรวงศึกษาธิการออกคำสั่งห้ามไม่ให้โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการออกระเบียบทรงผม เพื่อคุ้มครองนักเรียนจากการถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน หลังตรีนุชลงนามในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 และกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้างๆ โดยให้แต่ละสถานศึกษาใช้ดุลพินิจในการออกระเบียบทรงผมเอง
จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนกฎกระทรวงศึกษาฯ ฉบับที่ 2 (ปี 2518) ข้อกำหนดเรื่องทรงผมนักเรียน ศาลชี้ เป็นการจำกัดเสรีภาพเกินกว่าเหตุ ไม่คำนึงถึงพัฒนาการตามช่วงวัย และความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ
COMMENTS ARE OFF THIS POST