ปัญหาการฆ่าตัวตายในยุคปัจจุบัน กลายเป็นปัญหาที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดจากในอดีต ซึ่งมักสัมพันธ์จากเหตุผลหลายอย่างที่บุคคลนั้นๆ ประสบ ไม่ว่าจะปัญหาโรคทางจิตเวช ปัญหาครอบครัว ปัญหาความสัมพันธ์ ฯลฯ และจากงานวิจัยล่าสุดยังมีปัจจัยจากฐานะที่ยากจนอีกด้วยเช่นกัน

จากงานวิจัยโดย Dr.Jennifer Hoffmann ณ โรงพยาบาลเด็ก Ann & Robert H. Lurie แห่งชิคาโกทำให้เห็นถึงปัญหาการฆ่าตัวตายที่เพิ่มสูงมากขึ้นในหมู่เด็กที่มีฐานะพื้นฐานค่อนข้างยากจน เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง โดยอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 5-19 ปี ในสหรัฐอเมริกา 

โดยจากงานวิจัยระบุว่าเด็กที่มีฐานะยากจนต่ำกว่าเกณฑ์มีแนวโน้มที่เด็กๆ จะฆ่าตัวตาย 37% แต่เด็กที่มีฐานะยากจนต่ำมากที่สุด กลับพบว่าพวกเขามีอัตราการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนมากถึง 87% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งสถิติการฆ่าตัวตายที่ผ่านมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจึงทำให้เป็นสาเหตุอันดับสองไปของการเสียชีวิตในเด็กอายุ 10-19 ปีไปเสียแล้ว

“การวิจัยจำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มเติมในเรื่องของปัจจัยความยากจน เพื่อให้เราสามารถพัฒนาความรู้ และการป้องกันปัญหาดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” Dr.Jennifer Hoffmann กล่าว “ในขณะเดียวกันผู้ปกครองไม่ควรกลัวที่จะพูดคุยกับลูกๆ อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต และความคิดที่อยากฆ่าตัวตาย เพราะนั้นอาจเป็นการช่วยเหลือเด็กก่อนที่อะไรจะสายเกินไป”

ที่มา
newsmedical