ผลสำรวจพบว่ามีเพียง 3 ใน 10 ของพ่อแม่เท่านั้นที่อ่านนิทานให้ลูกฟังทุกวัน
จากผลการสำรวจจากพ่อแม่ 1,000 คน พบว่ามีเพียงแค่ร้อยละ 15 เท่านั้นที่อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน ทั้งๆ ที่ร้อยละ 97 ก็มองเห็นถึงความสำคัญของการอ่าน และอีกร้อยละ 58 กล่าวว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟังเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ช่วยถักทอสายสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
6 ใน 10 เห็นด้วยว่าการอ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟัง จะช่วยให้เรียนรู้ด้านการอ่าน แต่ด้วยตารางงานที่ยุ่งยาก ทำให้มีอุปสรรคมาขัดขวางการอ่าน
ผลการวิจัยของกองทุนเนชันนัลลิเทอเรซี (National Literacy Trust) พบว่า 1 ใน 8 ของเด็กด้อยโอกาสในสหราชอาณาจักรไม่มีหนังสือไว้ในครอบครอง และมีคุณพ่อคุณแม่มากกว่า 1 ใน 10 ที่ต้องการให้เด็กๆ ทั้งหลายเหล่านี้เข้าถึงหนังสือได้ฟรีๆ
มารี เอเมอรี—หัวหน้าทีมการตลาดของแมคโดนัลด์ ผู้จัดทำการสำรวจโครงการแฮปปี้รีดเดอร์ครั้งที่ 5 กล่าวไว้ว่า “งานวิจัยชิ้นนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับพวกเรา และพวกเราไม่ได้ประหลาดใจที่รู้ว่าพ่อแม่ทุกๆ คนใช้เวลาอ่านหนังสือให้กับลูกๆ ของพวกเขาอย่างคุ้มค่า แต่ด้วยงานที่เยอะ และภาระอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวันได้”
เดเมียน ฮินด์ส—เลขาธิการด้านการศึกษา กล่าวว่า “ฉันรู้สึกปลามปลื้มใจ ที่เห็นแมคโดนัลด์ทำงานคู่กับกองทุนเนชันนัลลิเทอเรซี เพื่อจัดหาหนังสือฟรีให้กับเด็กๆ และช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้หนังสือให้พวกเขา เพราะพวกเรารู้ว่ามันสำคัญอย่างไรกับพัฒนาการเด็ก และแผนนี้ช่วยกระตุ้นพ่อแม่และพี่เลี้ยงเด็กให้หันมาอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาใช้ภาษาได้ดีขึ้น”
NO COMMENT