บริตตัน ทอนตัน-ริกบี (Britton Taunton-Rigby) วัย 4 ปี เพิ่งได้รับการตรวจร่างกายประจำปี และกุมารแพทย์ของเธอได้เขียนใบสั่งยาว่า ‘ให้เล่นทุกวัน’

แนวทางการปฏิบัติจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน (American Academy of Pediatrics: AAP) แนะนำว่า กุมารแพทย์ควรแนะนำให้เด็กออกไปเล่นทุกวัน เพราะการเล่นกับพ่อแม่และเพื่อน เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสุขภาพของเด็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ทักษะชีวิต และช่วยลดความเครียด

การเล่นสำคัญมาก เพราะช่วยเพิ่มรอยหยักในสมอง และทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มทักษะการเป็นผู้นำอีกด้วย

AAP และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention) แนะนำให้เด็กๆ ออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง และเล่นอีก 1 ชั่วโมง โดย ดร.มิเชล ยอกแมน (Dr Michael Yogman) บอกว่า การเล่นมักถูกมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลา ซึ่งไม่ถูกต้อง

“การเล่นช่วยเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำ การมีสมาธิจดจ่อกับงาน การเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา การเรียนรู้ที่จะยืดหยุ่น ทั้งหมดก็คือการเรียนรู้ ถึงแม้เราจะคิดว่าเวลาที่เขาเล่น เขาไม่ได้เรียนรู้ แต่แท้จริงพวกเขาเรียนรู้อยู่” ดร.มิเชล กล่าว

ดร.ทารา นารูลา (Dr Tara Narula) กล่าวว่า นอกจากนี้ การเล่นยังช่วยลดความเครียด การเล่นช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าความเสี่ยงคืออะไร ช่วยสอนทักษะทางภาษา สอนทักษะการเข้าสังคมอีกด้วย

ประเภทของการเล่นที่ดี คือการเล่นที่เด็กมีส่วนร่วมกับกิจกรรม และรู้สึกสนุกสนานที่ได้ค้นพบ ดร.ทารา อธิบายว่า “เวลาเล่น เราจะรู้สึกสนุก เป็นธรรมชาติ และไม่มีเป้าหมาย”

และคุณไม่จำเป็นต้องมีของเล่นที่แพง คุณสามารถใช้ช้อนไม้หรือกล่องเป็นของเล่นให้กับลูกได้ มีของหลายอย่างในบ้าน ที่สามารถใช้เป็นของเล่นสำหรับลูกได้ แถมยังมีราคาถูกและหาง่าย

ผลการรายงานพบว่า ปัจจุบันเด็กอยู่กับหน้าจอเพิ่มมากขึ้น และประมาณร้อยละ 30 ของเด็กอนุบาลไม่ได้ออกไปเล่นพักผ่อน ซึ่งเด็กๆ ควรเล่นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 10 ปี

โดยพ่อแม่สามารถกระตุ้นให้ลูกเล่นได้ง่ายๆ ด้วยการพาเด็กออกไปข้างนอก ไปสำรวจธรรมชาติ รวมทั้งเล่นดนตรี เต้นรำ และวาดรูป

ที่มา

CBS News