READING

NEWS UPDATE: ฟองน้ำล้างจานคือแหล่งรวมแบคทีเรีย...

NEWS UPDATE: ฟองน้ำล้างจานคือแหล่งรวมแบคทีเรีย

เมื่อห้องน้ำไม่ใช่ส่วนที่สกปรกที่สุดของบ้าน แต่เป็นห้องครัวต่างหาก… การล้างจานด้วยฟองน้ำจึงอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสียแล้ว มาดูวิธีล้างจานแบบอื่นที่ปราศจากเชื้อโรคร้ายมากล้ำกรายกันดีกว่า

 

จริงๆ แล้วแมลงจิ๋วและแบคทีเรียตัวจ้อยหลงใหลห้องครัวเป็นที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมาจากบริเวณที่ล้างจาน บนฟองน้ำนี่ละ… แต่ถ้าจะให้ล้างจานด้วยมือเปล่า ถ้วย จาน และเครื่องครัวก็จะไม่สะอาดอีก แล้วจะทำอย่างไรดีหนอ

 

นักวิจัยชาวเยอรมันได้วิเคราะห์ฟองน้ำในครัวและพบผลลัพธ์ที่น่าตกใจ เพราะมีแบคทีเรียชนิดต่างๆ ถึง 362 ชนิดซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกของฟองน้ำ ด้วยตัวเลขที่น่าตกใจถึง 45 พันล้านต่อตารางเซนติเมตร (จำนวนเดียวกับที่พบในตัวอย่างอุจจาระของมนุษย์ทั่วไป) ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากขนาดฟองน้ำล้างจานทั่วไป จะพบว่ามีแมลงจิ๋วถึง 5,500 ล้านล้านตัวคลานยุบยับอยู่บนสิ่งที่คุณใช้ทำความสะอาดจาน

 

ตัวเลขนี้สร้างความประหลาดใจให้ทีมนักวิจัยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมาร์กัส อีเกิร์ต—ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและสุขอนามัยของมหาวิทยาลัยเฟิร์ตแวนเกน (Furtwangen University) บอกว่า แบคทีเรียเหล่านี้มีมากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้หลายเท่าตัว

 

เหตุผลที่ไม่ควรใช้ฟองน้ำล้างจาน

วิธีที่เหมาะสมในการล้างจานและถ้วยคือการใช้เครื่องล้างจาน เพราะมีระบบหมุนเวียนน้ำร้อน และความร้อนจากขั้นตอนการอบแห้ง ที่ช่วยทำลายเชื้อจุลินทรีย์ และทำให้ภาชนะสะอาดปลอดภัย สิ่งสำคัญคือต้องตั้งค่าการใช้งานเต็มรูปแบบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด เพราะความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำลายแบคทีเรีย

 

และถ้าคุณจะไม่ใช้เครื่องล้างจาน ก็ต้องพยายามรีดเอาเศษอาหารที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียออกจากฟองน้ำให้มากที่สุด และพยายามทำให้มันแห้งที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากๆ ก็ตาม

 

แต่ข่าวดีก็คือ… เหล่าแบคทีเรียในฟองน้ำไม่ใช่พาหะโรคที่ทำให้คุณป่วยได้ เพราะทีมวิจัยของมาร์กัสไม่พบเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากอาหาร เช่น Salmonella, E. coli หรือ Campylobacter

 

ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับการล้างจาน

ใช้แปรงพลาสติกหรือซิลิโคน เพราะแปรงมักจะแห้งเมื่อไม่ได้ใช้ และไม่มีรอยแตกลึกมากเท่าฟองน้ำให้น้ำเข้าไปค้างอยู่ และทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้

 

แคโรลิน โฟร์ต—ผู้อำนวยการฝ่ายห้องปฏิบัติการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สถาบัน Good Housekeeping กล่าวว่า “เมื่อใช้แปรงเสร็จ คุณสามารถเอามันไปฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำร้อนหรือทำให้แห้งได้ เพราะวัสดุไม่ได้เป็นรูพรุนแบบฟองน้ำ และถ้ามีอะไรติดอยู่กับแปรงก็สามารถดึงและล้างออกได้ง่ายกว่า หรือจะใช้เครื่องล้างจานสัปดาห์ละครั้งเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วยก็ได้”

 

วิธีทำความสะอาดฟองน้ำ

แต่ถ้าคุณยืนยันที่จะใช้ฟองน้ำต่อไป คุณต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนใหม่ทุกสัปดาห์

 

– สบู่และน้ำเปล่าไม่สามารถขจัดแบคทีเรียได้: โดยในการศึกษาของมาร์กัส ฟองน้ำที่ถูกทำความสะอาดด้วยวิธีนี้กลับพบแบคทีเรียมากกว่า จุลินทรีย์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นชนิดที่มีความทนทานต่อผงซักฟอกมากขึ้น เพราะรอดชีวิตจากการทำความสะอาดแล้ว และอาจอันตรายต่อสุขภาพ

ดังนั้นหากคุณทำความสะอาดฟองน้ำผิดวิธี แบคทีเรียจะยิ่งแข็งแรงขึ้น การทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง มาร์กัสจึงแนะนำให้เปลี่ยนฟองน้ำในครัวทุกสัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมตัวของแบคทีเรีย

– แช่ในน้ำยาฟอกขาว: ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดบ้าน แนะนำให้ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุก 2-3 วัน ด้วยการแช่ในน้ำยาฟอกขาว

สถาบัน Good Housekeeping เปรียบเทียบทุกวิธีการแล้วพบว่า การทำความสะอาดที่ดีที่สุดคือวิธีนี้ เพราะสามารถกำจัดแบคทีเรีย Salmonella, E. coli และ Pseudomonas ได้ถึง 99.9% จากฟองน้ำทั้งหมดที่ใช้ทดสอบ

และนำมาสู่สูตรทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานคือ

 

1.น้ำยาฟอกขาว 3 ช้อนโต๊ะ

2.น้ำ 1 ลิตร

3.แช่ฟองน้ำเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นล้างออก

 

– ใส่ไมโครเวฟหรือเครื่องล้างจาน: แล้วใช้ความร้อนจากไมโครเวฟหรือเครื่องล้างจานทำลายเชื้อโรคอีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้อาจไม่ได้ฆ่าเชื้อ E. coli จนสิ้นซาก แต่ก็ยังทำลายได้มากพอที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ บนฟองน้ำได้ แต่ต้องทำให้ฟองน้ำเปียกก่อน เพื่อป้องกันไฟไหม้ในเตาไมโครเวฟ และควรทำความสะอาดฟองน้ำก่อนนำมาใช้ล้างจานอีกครั้งด้วย

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกใช้ฟองน้ำที่ทำจากกระดาษหรือเยื่อไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทำฟองน้ำเซลลูโลสแบบเก่า หรือเลือกฟองน้ำจากพลาสติกที่มีรูพรุนและดูดซับได้น้อยลง หรืออาจใช้ฟองน้ำโฟมจากพืชที่เติมกรดซิตรัส (Citrus) เพื่อยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ประมาณหนึ่งเดือน

ฟองน้ำเก่า เอาไปไหนดี

ถ้ารู้สึกว่าการทิ้งฟองน้ำบ่อยๆ เป็นการสิ้นเปลือง ลองปรับเปลี่ยนมันไปใช้ในส่วนอื่นๆ ของบ้านซึ่งมีแบคทีเรียได้ เช่น ใช้ทำความสะอาดพื้นหรืออุปกรณ์ทำสวน ตราบใดที่ฟองน้ำรวมเชื้อโรคไม่ได้ใช้กับจาน ชาม หรือภาชนะที่คุณต้องกินทุกวัน ฟองน้ำก็ยังคงมีประโยชน์และใช้ต่อได้เสมอ

อ้างอิง
Time

Avatar

สาวยุค 90's ลูกครึ่งจีนฮ่องกง feat. เชียงใหม่ ที่พูดฮ่องกงไม่ได้ อู้กำเมืองบ่จ้าง ติดนิยาย รักการจดบันทึกและการกินเหนือทุกสิ่งอย่าง มีลูกสาวเป็นหมาอ้วนสีเหลืองอ่อน

RELATED POST