เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในประเทศจีน เมื่อแม่มือใหม่รายหนึ่งทำตามคำแนะนำจากคอร์สออนไลน์ชื่อดังเกี่ยวกับการฝึกลูกนอนเอง ส่งผลให้ลูกสาววัยเพียง 3 เดือนต้องเสียชีวิต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2020 ที่เมืองซานโถว มณฑลกวางตุ้ง

คุณแม่รายนี้ได้สมัครเรียนคอร์สออนไลน์ชื่อ Cheese Wontons ซึ่งสอนเทคนิคการฝึกให้ทารกนอนหลับด้วยตัวเองตามแนวคิด ‘ปล่อยให้ร้องจนหยุดเอง’ พร้อมสนับสนุนให้เด็กนอนคว่ำและนอนคนเดียวในห้อง โดยแม่สามารถเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดเท่านั้น เพื่อไม่ให้ขัดกระบวนการเรียนรู้ของลูก

ในวันเกิดเหตุ เด็กเริ่มนอนตะแคงก่อนพลิกตัวและร้องไห้ไม่หยุด แม่รู้สึกไม่แน่ใจจึงโพสต์ถามในกลุ่มเรียนออนไลน์ว่าเธอควรเข้าไปช่วยลูกหรือไม่ หนึ่งในสมาชิกตอบว่า “ไม่เป็นไร ถ้าไม่ร้องเสียงดังเกินไป” พร้อมแนะนำให้ฝึกนอนคว่ำต่อไป กระทั่งสองชั่วโมงถัดมา แม่โพสต์อีกครั้งว่าปากลูกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง และไม่นานก็ประกาศข่าวร้ายว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว

กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไว้อย่างชัดเจน เด็กเริ่มร้องไห้และดิ้น กระทั่งขาติดราวเตียง ก่อนฟุบหน้าลงกับที่นอน ขณะที่แม่ยังลังเลจะเข้าไปช่วยเพราะไม่อยากฝ่าฝืนคำแนะนำในกลุ่ม กระทั่งเวลา 15:00 น. เธอเข้าไปในห้องเพื่อปลุกลูกมากินนม แต่พบว่านอนนิ่ง

เหตุการณ์นี้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะต่อคอร์สออนไลน์ Cheese Wontons ที่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเจ้าของกลุ่มมีคุณสมบัติหรือการศึกษาในด้านการแพทย์หรือการดูแลเด็กแต่อย่างใด

ด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจงว่าเด็กไม่ได้เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจโดยตรง แต่เป็นเพราะภาวะ SIDS หรือภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันในทารก ซึ่งมักเกิดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะในท่านอนคว่ำที่เด็กยังไม่สามารถพลิกตัวหรือเงยหน้าขึ้นหายใจได้เองอย่างปลอดภัย

หลังเหตุการณ์ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเขตจินซานได้เข้าไปตรวจสอบกลุ่ม Cheese Wontons พร้อมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความผิดทางกฎหมาย ขณะที่ทางกลุ่มได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธความรับผิดชอบและประกาศปิดบัญชีหนีเสียงวิจารณ์ พร้อมทิ้งท้ายว่า “ใครไม่เห็นด้วยกับแนวคิด ก็ออกไป”

โศกนาฏกรรมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายจากการปฏิบัติตามคำแนะนำจากบุคคลที่ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับเด็กทารกที่ยังไร้เดียงสาและเปราะบาง การดูแลลูกน้อยควรอยู่ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับมาได้

อ้างอิง
sanook