คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า ผลวิจัยจากกรมควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ในเด็กผู้ชายทุก 1 ใน 6 คน และเด็กผู้หญิงทุก 1 ใน 4 คน ล้วนเคยถูกคุกคามทางเพศตั้งแต่อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยที่การคุกคามนั้น 10% มาจากคนแปลกหน้า และ 23% มาจากเพื่อนหรือคนกันเอง
แล้วเราจะสอนลูกๆ อย่างไรให้ห่างไกลจากภัยคุกคามทางเพศนี้
1. สอนให้ลูกรู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายให้เร็วที่สุด
เรียกส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยคำที่ถูกต้องและชัดเจน อย่าไปเขิน อย่างน้อยเด็กก็ควรแยกออกว่าคำไหนคือก้น หรือคำศัพท์ไหนใช้เรียกอวัยวะเพศ
2. สอนลูกว่า ‘บางส่วนบนร่างกาย’ นั้นเป็นของส่วนตัว
สอนให้ลูกรู้ว่าบางส่วนของร่างกายเป็น ‘ส่วนตัว’ ไม่ควรเปิดเผยให้คนอื่นเห็นหรือเข้ามาจับต้อง มันเป็นเหตุผลที่คนเราต้องใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเมื่อออกไปอยู่ในที่สาธารณะ
3. สอนลูกให้รู้จักขอบเขตร่างกายของตัวเอง
ร่างกายของเราไม่ใช่ใครจะมาขอดูขอสัมผัสอย่างไรก็ได้ ลูกต้องปฏิเสธให้เป็น หากมีใครก็ตามมาขอดูหรือสัมผัสร่างกายไม่ว่าในส่วนไหนก็ตาม
4. ถ้ามีใครมาล่วงเกินร่างกายเรา ลูกต้องไม่ปิดเป็นความลับ
คนที่มาล่วงเกินเด็กๆ มักจะบอกให้เด็กปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะฉะนั้นบอกให้ลูกรู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องรีบฟ้องคุณพ่อคุณแม่
5. ห้ามถ่ายภาพบางส่วนบนร่างกายของหนูนะ
ปัจจุบันมีช่างภาพหลายคนถ่ายภาพเปลือยบางส่วนของเด็กๆ ไปขายในโลกออนไลน์ ดังนั้น บอกให้ลูกรู้ไว้ว่า ถ้ามีใครมาขอถ่ายภาพส่วนลับของร่างกายเรา ให้เซย์โนไปเลยค่ะ
6. ลูกต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงให้ได้
เด็กบางคนปฏิเสธไม่เป็น เพราะฉะนั้นสอนให้ลูกรู้จักพูดว่า ‘ไม่’ ในทุกเรื่องที่เขาไม่ยินยอมพร้อมใจ หรือรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ตรงหน้า ไม่ว่าจะเวลาอยู่กับเพื่อนหรือใครก็ตาม หรือหาประโยคดีๆ ให้ลูกไว้ใช้แก้ไขสถานการณ์เบื้องต้น เช่น “ขอออกไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ก็ยังได้
7. เตรียมโค้ดลับให้ลูกไว้ เมื่อเขารู้สึกไม่ปลอดภัย
หรือต้องการให้คุณไปรับเดี๋ยวนั้น
ให้มันเป็นคำที่รู้กันว่าตอนนี้เขาต้องการคุณพ่อคุณแม่ให้มาช่วยเหลือโดยด่วน
8. ทำให้ลูกวางใจที่จะคุยกับคุณได้ทุกเรื่อง
เด็กหลายคนไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ความกลัวนี้แหละที่จะทำให้คนร้ายได้ใจ เพราะฉะนั้นทำให้ลูกไว้ใจที่จะพูดคุยกับคุณได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องลับๆ ของเขาก็ตาม
9. บอกลูกให้รู้ว่าการถูกล่วงละเมิดนั้น
บางครั้งก็อาจทำให้รู้สึกจั๊กจี้ หรือรู้สึกดี แต่มันเป็นเรื่องอันตราย
เด็กๆ อาจแยกออกเพียงการสัมผัสแบบเป็น ‘มิตร’ หรือ ‘ศัตรู’ เท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ลูกเข้าใจว่า มันมีการสัมผัสแบบเป็นมิตรที่แฝงความอันตรายมาด้วย หากมันเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด ลูกต้องระวังตัวและปกป้องตัวเองจากคนคนนั้นเช่นกัน
10. ทั้งหมดที่พ่อแม่สอนนี้ใช้ได้กับทุกคน
ไม่เว้นแม้แต่คนใกล้ตัวหรือเพื่อนสนิท
บอกให้เขารู้ว่าบุคคลอันตรายไม่ได้มาในรูปแบบของวายร้ายหรือคนแปลกหน้าเสมอไป แต่อาจมาในร่างคนที่เราไว้ใจก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นที่พ่อกับแม่สัมผัสบางส่วนของลูกได้ก็เพื่อดูแล ทำความสะอาด ทาครีมบำรุงผิว หรือความจำเป็นเท่านั้น แต่กับคนอื่นไม่ว่าพี่ ป้า น้า อา ครู โค้ช ทุกคนไม่มีสิทธิ์สัมผัสส่วนสำคัญบนร่างกายของลูกเด็ดขาด
NO COMMENT