เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านที่มีเด็กถูกปล่อยให้อยู่ลำพังและเสียชีวิตต่อเนื่องหลายกรณีในเกาหลีใต้ กำลังจุดประกายการถกเถียงเรื่องความจำเป็นในการออกกฎหมายใหม่เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมเช่นนี้

ล่าสุด เด็กหญิงสองพี่น้องวัย 8 และ 6 ปี เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในอพาร์ตเมนต์ชั้น 6 ที่เขตกีจัง เมืองปูซาน เมื่อเวลาประมาณ 22.58 น. คืนวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานของหน่วยดับเพลิงปูซาน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเพลิงไหม้เริ่มจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่น ขณะที่เกิดเหตุ เด็กทั้งสองอยู่ตามลำพังที่บ้าน ส่วนพ่อแม่ออกไปทำงานในร้านอาหารของตนในช่วงดึก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 9 วันหลังจากเหตุคล้ายกันในเมืองเดียวกัน เด็กหญิงสองคนอายุ 10 และ 7 ปี เสียชีวิตขณะนอนหลับอยู่ลำพังในอพาร์ตเมนต์ชั้น 4 เมื่อเวลาประมาณ 04.15 น. วันที่ 24 มิถุนายน พ่อแม่ของเด็กทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด และได้ออกไปทำงานแต่เช้ามืด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก็มีเด็กหญิงวัย 12 ปี เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในวิลลาย่านซอ-กู เมืองอินชอน ขณะเกิดเหตุเวลา 10.43 น. พ่อของเธออยู่โรงพยาบาลเพื่อฟอกไต ส่วนแม่ไปทำงานที่ร้านอาหาร

ตามข้อมูลจากสำนักงานดับเพลิงแห่งชาติ มีเหตุการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับเด็กเกิดขึ้นถึง 108,759 ครั้ง ระหว่างปี 2021 ถึง 2023 โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (50,906 กรณี) เกิดขึ้นที่บ้าน มากกว่าที่โรงเรียนซึ่งมี 9,515 กรณีอย่างชัดเจน

แม้จะรู้ว่าเสี่ยง แต่เด็กจำนวนมากยังคงถูกปล่อยให้อยู่บ้านตามลำพังหลังเลิกเรียน รอพ่อแม่ที่ออกไปทำงาน ข้อมูลจากการสำรวจโดยสถาบันสุขภาพและกิจการสังคมแห่งเกาหลีเมื่อปี 2020 พบว่า เด็กประถมร้อยละ 23.1 ทั่วประเทศใช้เวลาหลังเลิกเรียนอยู่บ้านคนเดียว การสำรวจนี้จัดทำจากกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครอง 5,050 คน

ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายในเกาหลีใต้ที่ห้ามไม่ให้พ่อแม่ปล่อยลูกอยู่บ้านลำพัง แต่เหตุการณ์ไฟไหม้หลายกรณีล่าสุดทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้มีการตรากฎหมายเช่นนั้น

ในสหรัฐอเมริกา การปล่อยเด็กอยู่ลำพังถือเป็นการละเลยเด็ก และมีข้อห้ามตามกฎหมาย เช่น รัฐแมริแลนด์ห้ามปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปีอยู่คนเดียว ส่วนรัฐอิลลินอยส์ห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีอยู่ลำพัง หากเด็กที่ถูกปล่อยลำพังได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้ พ่อแม่อาจถูกดำเนินคดีอาญา

นักกฎหมายบางคนในเกาหลีใต้เสนอว่า ประเด็นนี้ควรนำเข้าสู่การพิจารณาทางกฎหมาย ไม่ใช่เพื่อเอาผิดพ่อแม่หลังเกิดเหตุแล้วเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

อ้างอิง
m.koreaherald