คุณมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของผู้ประกันตนอย่างทั่วถึง ทั้งในด้านการรักษาโรคทั่วไปและการดูแลเฉพาะทาง โดยเฉพาะกรณีของผู้ประกันตนหญิงที่ประสบภาวะ ‘ท้องไม่พร้อม’ ซึ่งสามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์เพื่อยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

บริการดังกล่าวถือเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการเจ็บป่วย ที่สามารถใช้ได้ตามเงื่อนไขทางการแพทย์ ตามข้อบังคับของแพทยสภาเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2564 โดยผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลตามสิทธิ หากสถานพยาบาลนั้นไม่สามารถให้บริการได้ ก็สามารถส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นที่มีศักยภาพสูง หรือที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัย ซึ่งในกรณีนี้ สถานพยาบาลตามสิทธิจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมยังได้รับทราบว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยผ่านงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รวมถึงงบบริการผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมประชาชนไทยทุกสิทธิการรักษา

ดังนั้น ผู้ประกันตนที่มีสัญชาติไทยสามารถเลือกรับบริการได้ 2 ทางเลือก คือ

1. เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัย ซึ่งจะได้รับสิทธิเช่นเดียวกับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

2. เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิของตน และหากต้องส่งต่อไปรักษาที่สถานพยาบาลอื่น ก็ให้สถานพยาบาลตามสิทธิเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษา

ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย ให้เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิ และในกรณีที่จำเป็นต้องส่งต่อ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยสถานพยาบาลตามสิทธิยังคงต้องรับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์เช่นกัน

อ้างอิง
hfocus.org