สำนักงานข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ศาลสูงสหรัฐ ได้มีคำตัดสิน ด้วยการล้มล้างคำพิพากษาคดีในอดีตซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Roe v Wade ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2516 หรือเกือบ 50 ปีที่แล้ว ที่กำหนดว่าการทำแท้งถูกกฎหมาย

โดยศาล 6-3 ที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดแบบอนุรักษนิยม ยึดเอากฎหมายมิสซิสซิปปี้ ที่สนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน ที่ห้ามทำแท้งหลังจากตั้งครรภ์ได้ 15 สัปดาห์ โดยคะแนน 5-4 ได้โหวตล้มล้างกฎหมาย Roe v Wade ซึ่งมี หัวหน้าผู้พิพากษา จอห์น โรเบิร์ตส์ สายอนุรักษนิยม

การตัดสินคดีล่าสุดนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมสิทธิในการทำแท้งในอเมริกา โดยจะทำให้แต่ละรัฐ สามารถสั่งห้ามการทำแท้งได้ และคาดว่ารัฐต่างๆ ราวครึ่งหนึ่งจะออกกฎหมายใหม่ หรือสั่งห้ามการทำแท้งโดยสิ้นเชิง มีแนวโน้มว่ามีถึง 26 รัฐ ที่จะห้ามการทำแท้ง ท่ามกลางความกังวลว่า หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ อาจถูกบีบให้ต้องเดินทางไปรัฐอื่น ที่ขั้นตอนการทำแท้งยังถูกกฎหมาย หรือ ซื้อยาทางออนไลน์ หรือหันไปสู่การทำแท้งแบบผิดกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ทั้งนี้ การตัดสินดังกล่าว ทำให้เกิดการถกเถียงที่รุนแรงขึ้น ถึงความชอบธรรมของศาล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา แต่ถูกทำให้เกิดข้อถกเถียงต่างๆ มากขึ้น จากคำตัดสินเชิงอนุรักษนิยม ในประเด็นต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกมาประณามการตัดสินดังกล่าว ว่าเป็นเส้นทางที่อันตราย “มันเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับศาล และอเมริกา ศาลทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ลบล้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่เป็นพื้นฐานสำหรับชาวอเมริกันจำนวนมาก”

ทั้งนี้ หลายรัฐ ได้ออกมากล่าวถึงข้อกำหนดกฎหมายต่างๆ แตกต่างกันในรายละเอียด ทั้งอนุญาต และ ห้ามการทำแท้งเสรี รวมไปถึงอายุครรภ์ในการหยุดการตั้งครรภ์ เช่น วอชิงตัน ระบุว่า การทำแท้งถูกกฎหมาย ในวอชิงตัน ก่อนมีกฎหมาย Roe v Wade มากกว่า 50 ปี และยังถูกกฎหมายอยู่ในขณะนี้ วอชิงตัน มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการสนับสนุน สิทธิในการเจริญพันธุ์อย่างครบถ้วน และจะดำเนินต่อไป

สำหรับการตัดสินคดีประวัติศาสตร์ Roe v Wade ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 1973 เป็นคดีที่ศาลสูงสุดมีมติด้วยเสียง 7 ต่อ 2 ชี้ว่าการยุติการตั้งครรภ์ของผู้หญิงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ คำตัดสินนี้ให้สิทธิแก่ผู้หญิงในการยุติการตั้งครรภ์ในช่วงสามเดือนแรก (ระยะแรก) ของการตั้งครรภ์ แต่ยอมให้สิทธิโดยมีข้อจำกัดในระยะที่สอง และห้ามยุติการทำแท้งในระยะที่สามของการตั้งครรภ์

อ้างอิง
matichon