นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 3 กรกฎาคม 2564 พบมีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ 581 ราย เสียชีวิต 9 ราย ทารกติดเชื้อ 40 ราย และเสียชีวิต 4 ราย โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงป่วยเป็นโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อครรภ์ เป็นพิษ เลือดแข็งตัวผิดปกติ คลอดก่อนกำหนดได้
ส่วนทารกในครรภ์ที่ติดเชื้อมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวน้อยเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับทารกที่คลอดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ติดเชื้อ
จึงขอความร่วมมือทุกโรงพยาบาลและคลินิกฝากครรภ์มีแนะแนวทางให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ดังนี้
1. ให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด–19 ต่อหญิงตั้งครรภ์ เมื่อตัดสินใจฉีดวัคซีนแล้ว ให้พิจารณาว่าไม่มีข้อห้าม ในการฉีดและผู้รับบริการมีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์
2. ให้หญิงตั้งครรภ์ลงชื่อ ในแบบคัดกรองและใบยินยอมในการรับวัคซีน และมีการตรวจครรภ์ตามปกติจนเสร็จสิ้นกระบวนการ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แนวทางถัดมาคือ ส่งตัวหญิงตั้งครรภ์พร้อมแบบคัดกรองและ ใบยินยอมรับบริการวัคซีนโควิด–19 เพื่อไปรับวัคซีน ณ จุดฉีดวัคซีนที่กำหนดไว้ พยาบาลห้องฝากครรภ์ประสานจุดฉีดวัคซีนแจ้งจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่ไปรับวัคซีน กรณีวัคซีนไม่เพียงพอให้ทำการนัดหมายกำหนดวันต่อไป เมื่อหญิงตั้งครรภ์ไปถึงจุดฉีดวัคซีนให้เข้าช่องทางพิเศษสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่จุดบริการวัคซีนจัดไว้ หลังจากนั้นผ่านจุดคัดกรอง ฉีดวัคซีน และสังเกตอาการตามระบบ และนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
โดยแจ้งให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการไม่พึงประสงค์ อีกทั้งทุกหน่วยบริการให้วัคซีนแก่หญิงตั้งครรภ์ต้องติดตามและรายงานข้อมูลอาการไม่พึงประสงค์และผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์หลังจากได้รับวัคซีนแล้วด้วย
COMMENTS ARE OFF THIS POST