READING

ครูอั้ม—อัมพร เจียรนัย สมิท: เรียนรู้เด็กและศิลปะไ...

ครูอั้ม—อัมพร เจียรนัย สมิท: เรียนรู้เด็กและศิลปะไปพร้อมกัน

ศิลปะกับเด็กดูจะอยู่คู่กันมาทุกยุคทุกสมัย ก่อนที่จะเริ่มหัดอ่านเขียนตัวหนังสือ เราต่างเคยหยิบจับแท่งสีขึ้นมาขีดเขียนและวาดเล่นกันมาก่อนทั้งนั้น เด็กบางคนพอมีโอกาสได้ละเลงสีสันลงกระดาษแล้วก็เริ่มฉายแววศิลปินตัวน้อยออกมา ในขณะที่บางคน ศิลปะก็ทำให้เด็กแสนซนยอมหยุดวิ่งเล่น แล้วมานั่งวาดรูปอยู่กับที่ได้นานสองนาน

 

วันนี้เรามาพูดคุยกับ ครูอั้ม—อัมพร เจียรนัย สมิท คุณครูสอนศิลปะวัย 26 ปี ที่ไม่ใช่แค่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับศิลปะชิ้นใหญ่อย่างเด็กๆ หลากหลายช่วงวัย กับประสบการณ์การสอนศิลปะเด็กตามบ้านมาไม่ต่ำกว่าสี่ปี เส้นทางที่มีทั้งเด็กและศิลปะควบคู่กันไปแบบนี้ คงจะมีอะไรน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

 

Q ทำงานศิลปะมานานแค่ไหน

A ทำงานศิลปะมาประมาณห้าปี ทำมาตั้งแต่เรียน เพราะเรียนออกแบบ เริ่มไปสอนเด็กตั้งแต่ปีสองปีสามเพราะเราต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง แล้วก็ได้แรงบันดาลใจจากลายเส้นของเด็กๆ ทำให้เริ่มมีผลงานของตัวเอง จากนั้นก็วาดรูปมาเรื่อยๆ

 

จนได้มาเป็นคุณครูเต็มตัว เพราะว่าไปเจอเด็กคนหนึ่ง คุณแม่เขาอยากให้ลูกเรียนศิลปะมาก ก็เลยเริ่มสอนเขาตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็ได้รับการบอกต่อกันมาเรื่อยๆ จนประมาณสองปีที่แล้วถึงได้ตั้งชื่อ Art Issue BKK ตอนนี้รับสอนศิลปะเด็กทั้งตามบ้านเด็กและสอนที่บ้านตัวเองด้วยค่ะ


Q จากนักเรียนศิลปะทำไมถึงมาเน้นที่การสอนศิลปะเด็ก

A โดยส่วนตัวชอบเด็ก รักเด็กมากกกกก และด้วยผลงานของตัวเองด้วยที่ได้แรงบันดาลใจจากเด็กๆ นอกจากการที่เราสอนเด็ก เด็กก็เป็นอาจารย์เราเหมือนกัน คือเขาได้สอนงานของเขา สอนกลิ่นอายความเป็นเด็ก ลายเส้นของเด็กที่ให้กับเรา ทำให้เราสามารถต่อยอดในการทำงานศิลปะได้มากขึ้น และเขาก็ได้อะไรใหม่ๆ จากเราไปด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนกัน เวลาสอนไปเราก็จะคุยกัน ทำไมหนูถึงทำแบบนี้ ทำไมครูถึงทำแบบนี้ ทำไมหนูถึงวาดแบบนี้ เหมือนเพื่อนคุยกัน แลกแรงบันดาลใจกัน

 

Q ศิลปะกับเด็กดูเป็นอะไรคู่กันเสมอ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

A ศิลปะเป็นสิ่งที่สำคัญกับเด็ก จากที่สอนมา เวลาคุยกับพ่อแม่ของเด็กๆ เขาเข้าใจเสมอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ศิลปะมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตเรามาก ไม่ว่าจะการเลือกสิ่งของ การใช้ชีวิต การใส่เสื้อผ้า และศิลปะยังช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิดีขึ้น นี่คือเหตุผลที่ผู้ปกครองหลายคนส่งลูกมาเรียนกับครูอั้ม เขาอยากให้เด็กควบคุมตัวเองได้มากขึ้น มีสมาธิกับงานของตัวเอง ทำงานได้นานขึ้น แค่นี้ก็พอแล้ว ขอแค่ลูกตัวเองรู้ว่าอยากทำอะไร และอยู่กับมันได้นานก็พอแล้ว สำหรับครูอั้มเรียกว่ามันเป็น art therapy เลย เพราะมันช่วยผ่อนคลายขัดเกลาให้เด็กๆ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น อาจจะไม่ได้ช่วยให้เด็กเป็นคนดีหรือเรียนเก่ง แต่อย่างน้อยศิลปะก็ช่วยให้เขารู้จักตัวเอง

 

Q ไปสอนเด็กที่บ้านเด็กกับการสอนที่บ้านครูอั้มมีความแตกต่างกันไหม

A ส่วนใหญ่ครูอั้มจะไปสอนที่บ้านนักเรียนมากกว่า เพราะนักเรียนที่มาเรียนบ้านครูอั้มส่วนมากผู้ปกครองจะค่อนข้างสนิทกับครู และบ้านเขาค่อนข้างไกลค่ะ ต้องอยากเรียนจริงๆ เพราะต้องมาที่บ้านครูทั้งคุณแม่และลูกเลย ซึ่งเหมือนจะง่ายกับเรา แต่เราก็สอนเต็มที่เหมือนเวลาไปสอนที่บ้านนักเรียนคนอื่นๆ

 

ส่วนการไปสอนที่บ้านนักเรียน สภาพแวดล้อมก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเด็กจะค่อนข้างเสียสมาธิได้ง่าย ถ้าน้องไม่โฟกัสเขาอาจจะวิ่งไปหาแม่ หรือเดินไปนอนเลยก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผู้ปกครองจะเข้าใจและช่วยครูด้วยการจัดสถานที่ให้เหมาะสม หรือพยายามทำให้ลูกมีสมาธิมากที่สุด เช่น ไม่มีของเล่น ไม่มีทีวี ไม่มีคนเข้ามากวน แต่ถ้าถึงเวลาจริงๆ แล้ว น้องยังไม่สนใจเราก็ต้องให้เวลาเขาไปเบรก แล้วค่อยกลับมาทำต่อ เพราะถ้าไปฉุดไปลากแต่เขาไม่เอา ก็จะกลับมาเรียนกันไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับการพูดคุยชักชวนเขาเข้ามาทำงานให้เสร็จด้วยค่ะ

ขอบคุณรูปถ่ายจาก  Art Issue BKK
ขอบคุณรูปถ่ายจาก Art Issue BKK

Q คิดว่าศิลปะช่วยเด็กๆ เรื่องไหนบ้าง

A อันดับแรกที่ศิลปะช่วยคือเรื่องสมาธิ แต่ต้องใช้เวลานะ ไม่ใช่วันเดียวจะรู้เลยว่ามีสมาธิเพิ่มขึ้น ต้องใช้เวลาเป็นเดือน บางคนเป็นปี แต่มันได้ผลจริงๆ ตอนแรกเราจะเห็นว่าเขาเป็นเด็กที่มีสมาธิแค่ไหน แล้วเราจะรู้ว่าจะช่วยเขาเพิ่มยังไง โดยที่ไม่ต้องไปดุว่าเขาเลย และในเรื่องของการเลือกข้าวของในชีวิตประจำวัน สไตล์ของตัวเอง เด็กแต่ละคนจะมีสไตล์ไม่เหมือนกัน อยู่ที่คุณพ่อคุณแม่จะดันออกมาว่าอยากให้ลูกไปในทางไหน บางคนพ่อแม่บอกว่าลูกเป็นคนเรียบร้อยมาก แต่พอมาดูที่งานแล้วไม่ใช่อย่างนั้น อยู่ที่อารมณ์มากกว่า และศิลปะก็ช่วยให้เห็นข้างในของคนมากขึ้นว่าเขาคิดอะไรอยู่

Q การเลี้ยงดูลูกก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งใช่ไหมคะ

A ใช่ค่ะ แต่ก่อนเราไม่เคยมีลูก แต่เรารักเด็กมาก พอเราอยู่กับเด็กมากขึ้นก็รู้สึกว่าศิลปะเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะศิลปะเข้าไปอยู่ในชีวิตของเขา ทุกๆ วัน ทุกๆ อย่าง มันทำให้ผู้ปกครองบางคนบอกว่ารู้จักลูกมากขึ้นจากงานศิลปะ จากอารมณ์ที่ลูกจะสื่อ เลยรู้สึกว่ามันสำคัญกับการเลี้ยงลูกนะ

Q เริ่มมีการสอนศิลปะกับลูกตัวเองบ้างหรือยัง

A ตอนนี้น้องเพิ่งอายุประมาณแปดเดือน เคยให้เขาลองทำงานศิลปะตอนเขาห้าเดือน ก็ให้ลองจิ้มๆ สีบนกระดาษที่เราห่อพลาสติกไว้ ซึ่งมันอาจจะยังไม่เห็นผลมากมาย แต่ก็พยายามแทรกศิลปะเข้าไปตลอด และมั่นใจว่ามันจะช่วยอะไรหลายๆ อย่างในการพัฒนาเขาได้ไม่มากก็น้อย ตอนนี้ก็รอให้เขาพอที่จะเริ่มจับอะไรเองได้ก่อน อีกหน่อยคงสนุกมากกว่านี้แน่ๆ ค่ะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะคะ ฮ่าๆ

 

เด็กไม่ได้อยากวาดรูปเหมือน ต้องวาดเป๊ะ ระบายสีเป๊ะ เด็กแค่อยากจะบอกว่า วันนี้เขาไปเจออะไรมา เขามีการ์ตูนเรื่องไหนที่ชอบ เขาเจอใคร เขาชอบใคร เขารักพ่อรักแม่ สังเกตได้ชัดว่าในผลงานของเด็กทุกคนจะมีคนในครอบครัวอยู่ในนั้น 

 

Q ความสนุกสนานในการสอนเด็ก

A สิ่งเดียวที่ทำให้อยากสอนเพราะเราชอบเด็ก มันก็จะมีบ้างที่น้องๆ เหนื่อยหรือไม่มีสมาธิในบางวัน เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าวันนี้เขาจะมาไม้ไหน แต่มันพิสูจน์ตัวครูด้วยว่า จะแก้ปัญหายังไงให้ออกมาดีที่สุด ถ้าเราเอาชนะใจให้เขากลับมาเรียนได้ นั่นคือวันนั้นกลับบ้านเดินยิ้มได้เลย แต่ถ้าวันไหนเราเอาเขาไม่อยู่ เราต้องกลับบ้านมาทำการบ้านว่า ครั้งหน้าจะทำอย่างไรให้รับมือกับเด็กๆ ทุกคนได้ เพราะเด็กแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ครูไม่เคยโมโหหรือทำโทษเด็กเลย เพราะคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาผิดจุด เด็กก็คือเด็ก วันไหนที่เขาตั้งใจเรียน เราจะสนุกไปกับเขา วันไหนที่เขาไม่อยากเรียน ก็อยู่ที่เราจะทำยังไงให้เขากลับมามีความสุขในการเรียนให้ได้

 

Q การสอนของครูอั้มเป็นแบบไหน ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร

A ได้แรงบันดาลใจจากตัวเองว่า ถ้าเราเป็นเด็กจะอยากเรียนอะไร ซึ่งครูอั้มมีความรู้สึกว่าเด็กไม่ได้อยากวาดรูปเหมือน ต้องวาดเป๊ะ ระบายสีเป๊ะ เด็กแค่อยากจะบอกว่า วันนี้เขาไปเจออะไรมา เขามีการ์ตูนเรื่องไหนที่ชอบ เขาเจอใคร เขาชอบใคร เขารักพ่อรักแม่ สังเกตได้ชัดว่าในผลงานของเด็กทุกคนจะมีคนในครอบครัวอยู่ในนั้น หมายถึงสิ่งที่อยู่ในความคิด เวลาที่เขาคิดถึงอะไร เขาก็จะวาดรูปนั้นลงไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครูอั้มที่เขาสื่อสารออกมา

Q ชอบอะไรในการสอนศิลปะมากที่สุด

A ชอบที่เราสามารถสร้างคาแรกเตอร์ให้เด็กแต่ละคนออกมาได้มากกว่า เพราะเด็กแต่ละคนแตกต่างกันจริงๆ และเราดีใจที่เราสามารถดึงเขาออกมาได้ เขากล้ามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราดีใจที่สุดแล้ว

ขอบคุณรูปถ่ายจาก  Art Issue BKK
ขอบคุณรูปถ่ายจาก Art Issue BKK

Q ความสวยงามกับงานศิลปะสำคัญไหม

A งานศิลปะของครูอั้มไม่มีสวยไม่สวยนะคะ แต่จะเรียกว่างานยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร จะเป็นการสอนเรื่องเทคนิคในการวาดรูประบายสีที่น้องๆ มองข้ามไป แต่เราก็จะคอยสอนและแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น การระบายสีที่เลอะเพราะเด็กใจร้อนเกินไป ครูอั้มจะปล่อยให้น้องระบายแบบเลอะๆ ไปก่อน พอเจอปัญหาว่าสุดท้ายแล้วมันลบไม่ได้ ครั้งหน้าน้องจะจำและจะระบายให้ดีขึ้น

Q จุดที่ยากที่สุดในการสอนเด็ก รับมือยังไง

A สมาธิของเด็กเป็นสิ่งที่ยากที่สุด เด็กทุกคนความรู้สึกไม่เหมือนกัน ด้วยการทำงานศิลปะมันจำกัดเวลาไม่ได้ เราว่าการที่เด็กได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น นั่นคือเขาเริ่มมีสมาธิแล้ว ก็ต้องคุยกับผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองของครูอั้มน่ารักทุกคน เขาก็จะช่วยคุยกับลูกเขามากขึ้น ซึ่งเราบอกผู้ปกครองว่าไม่ต้องไปดุเขา เราให้เวลาเขา เดี๋ยวงานก็จะเสร็จเอง เพราะเราเข้าใจว่างานศิลปะมันต้องใช้ฟีลลิ่ง

Q ชอบอะไรมากที่สุดในการทำงานกับเด็ก    

A ชอบเวลาที่เด็กพูดคุยกับเรา ความคิดของเด็ก บางคนเขาไม่เคยพูดเรื่องนี้กับแม่ แต่เขาพูดกับเรา เหมือนเราเปิดโอกาสให้จนเขารู้สึกสบายใจ เช่นเขาคิดว่าการวาดการ์ตูนของเขามันไร้สาระสำหรับผู้ปกครอง เขากล้าพูดกับเราจนเราเหมือนเป็นคนในครอบครัวเขา และครูอั้มประทับใจเวลาที่เราเห็นผลงานที่เด็กทำเสร็จออกมาแล้วเขารู้สึกดีใจ เขาชอบ นั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกภูมิใจ เขายิ้ม พ่อแม่เขาชมเขา เรารู้สึกดี เหมือนเราได้ความรู้สึกนั้นไปด้วย

 

Q ถ้าพ่อแม่อยากสอนศิลปะให้ลูกด้วยตัวเอง ควรเริ่มต้นยังไงดี

A อันดับแรก ผู้ปกครองต้องใจเย็น เพราะว่างานศิลปะต้องใจเย็นมาก ถ้าเขาใจเย็นได้ลูกก็จะใจเย็นได้ บางคนบอกว่าฉันวาดไม่ได้แน่นอน เป็นไปไม่ได้เลย การเรียนรู้วาดรูปไปกับลูก เริ่มวาดรูปจากวงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม สุดท้ายเขาก็วาดได้ ไม่จำเป็นต้องวาดทิวทัศน์หรือวาดให้เหมือนจริง แค่วาดดอกไม้หรือธรรมชาติให้เขารู้สึกว่ามีกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ วาดรูปร่วมกัน น้องวาดพระจันทร์ คุณแม่วาดก้อนเมฆ นั่นคือการทำศิลปะร่วมกันได้แล้ว

 

 

เฟซบุ๊ก ART ISSUE BKK

Avatar

กำลังเรียน ป.โท เกี่ยวกับเด็ก ในสาขาที่ชื่อยาวมากสาขาหนึ่ง ชอบถ่ายรูปเป็นนิสัย และชอบไปเที่ยวในที่ที่มีดอกไม้เป็นพิเศษ มีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นแมวและกระต่ายอย่างละตัว

RELATED POST