ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการอ่านหนังสือนั้นมีประโยชน์กับคนทุกเพศทุกวัย เพราะการอ่านเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ หากชักชวนลูกอ่านหนังสือหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟังอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยพัฒนาสมองของลูกได้

เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณงาน ก็จะพบกับบูท Book Blind Date ที่เซอร์ไพรส์นักอ่านด้วยการเอาหนังสือมาห่อเป็นของขวัญ โดยบนกระดาษห่อจะมีเพียงนิยามสั้นๆ ของหนังสือด้านในเท่านั้น เพราะฉะนั้นซื้อไปแล้วจะได้หนังสือที่ถูกใจแค่ไหน ต้องรอลุ้นหลังจากแกะกระดาษออกดูเท่านั้น

งานครั้งนี้มีคอนเซ็ปต์คือ ‘Gift Me Books’ หรือการมอบหนังสือเป็นของขวัญ เป็นโปรเจกต์ที่ส่งเสริมให้การบริจาคหนังสือไปยังงโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารตรงกับความต้องการของเด็กจริงๆ จึงมีหนังสือที่คัดเลือกมาจากหลาย สำนักพิมพ์ ให้สามารถเลือกซื้อและห่อของขวัญเพื่อส่งไปให้น้องๆ ได้

ที่น่าจะถูกใจเด็กๆ ในงานก็คงจะเป็นคัปเค้กที่ตกแต่งเป็นปกหนังสือเล่มต่างๆ ใครอยากกินหนังสือเล่มไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ในราคาเพียง 75 บาท และถ้าซื้อสินค้าภายในงานครบ 1,000 บาท สามารถแลกซื้อคัปเค้กในราคาเพียง 55 บาท ได้อีกด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในฮอลล์ก็จะพบกับบูทของสำนักพิมพ์ในเครือบันลือกรุ๊ปไฮไลต์ของบูทนี้ก็คือมีโปรโมชั่นบุฟเฟต์หนังสือ สามารถหยิบใส่ถุงผ้าที่กำหนดให้ได้อย่างจุใจในราคาเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น

และเมื่อเรามองหาหนังสือที่เหมาะกับเด็กๆ ก็ต้องสะดุดตากับ มหาสนุก Happy Learners ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการ์ตูนมหาสนุก ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เหมาะกับเด็กรุ่นใหม่วัยประถม อายุประมาณ 7-12 ปี โดยเน้นไปที่ทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) มีคอลัมน์ที่จำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หลากหลาย เช่น คอลัมน์ ‘แบบนี้ก็มีด้วยในวิชาเรียน’ ที่จัดทำร่วมกับแอพ StarDee ที่บอกเคล็ดลับการเรียนวิชาต่างๆ พร้อมเข้าใจว่า แต่ละบทเรียนในวิชาต่างๆ เราเรียนไปทำไม หรือ คอลัมน์ ‘แพลนยัวร์มันนี่กับพี่เจ้านุ่น’ ที่ชวนเรียนรู้เรื่องการออม การลงทุน และการเพิ่มรายได้ตั้งแต่เด็กๆ ไปกับเหล่าแก๊งสัตว์ที่น่ารัก หรือ คอลัมน์ ‘Visual Thinking’ ชวนคิดเป็นภาพ การคิดอย่างเป็นระบบ จินตนาการ และสื่อสารกับผู้อื่น และ ส่งเสริมทักษะด้านของจินตนาการ ช่างสังเกต คิดวิเคราะห์ และตัดสินใจด้วย ราคาเล่มละ 89 บาท หรือจะสมัครสมาชิกรายปีก็ได้ 12 เล่ม 980 บาทค่ะ

ถัดมาเป็นบูทหนังสือจากสำนักพิมพ์ SandClock รวบรวมหนังสือสำหรับแม่และเด็กทุกช่วงวัยไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่หนังสือคู่มือตั้งครรภ์ ไปจนถึงวิธีการเลี้ยงลูกสไตล์ญี่ปุ่น วิธีเล่นกับลูก ฝึกลูกกินอาหารด้วยตนเอง ฯลฯ

สำหรับหนังสือที่เป็นที่นิยมของเหล่าคุณแม่มือใหม่นั่นก็คือ Brain Training (ราคาปกเล่มละ 340 บาท ราคาในงานเล่มละ 272 บาท) ซึ่งภายในหนังสือก็จะรวบรวมวิธีการฝึกฝนพัฒนาสมองเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงเด็กปฐมวัย

นอกจากนี้ยังมีนิทานภาพสำหรับเด็กที่ออกใหม่และได้รับความนิยมด้วยนั่นก็คือเรื่อง พระราชาผู้สั่งห้ามความมืด (ราคาปกเล่มละ 290 บาท ราคาในงานเล่มละ 261 บาท) โดยเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชาที่เอาแต่ใจตนเอง ทางสำนักพิมพ์ SandClock ยังบอกกับเราอีกว่าไม่เพียงแต่ถูกใจเด็กๆ เท่านั้น เพราะผู้ใหญ่ก็ยังมาอุดหนุนหนังสือเล่มนี้ไม่น้อยเลย

มาต่อกันที่สำนักพิมพ์ mangmoom kids โดยส่วนใหญ่หนังสือของทางสำนักพิมพ์นี้จะแปลมาจากหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็กจากประเทศไต้หวัน เนื่องจากในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ มากขึ้นไม่ใช่เพียงแต่พัฒนาการของลูกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคารพความแตกต่าง การสอนลูกไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการถูกคุกคามทางเพศ จึงจำเป็นต้องมีสื่อกลางที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยกับลูกได้ ลูกก็จะสามารถรับรู้และเข้าใจได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

อย่างเรื่อง ม้าสีส้ม (ราคาปกเล่มละ 265 บาท ราคาในงานเล่มละ 240 บาท) เล่มนี้จะพูดถึงความแตกต่างของชาติพันธุ์ จะช่วยให้เด็กๆ เคารพความแตกต่างของผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รับคัดเลือกเข้าชิงรางวัล National Publication Award ครั้งที่ 4 อีกด้วย

เรื่อง เสียงปรบมือที่ดังที่สุด (ราคาปกเล่มละ 265 บาท ราคาในงานเล่มละ 240 บาท) จะใช้กีฬาฟุตบอลเป็นตัวดำเนินเรื่อง ที่จะทำให้เด็กๆ เข้าใจในโลกความเป็นจริงว่า ชัยชนะไม่ได้อยู่ที่คะแนน ไม่ได้อยู่ที่เสียงปรบมือเสมอไป แต่อยู่ที่ความตั้งใจของเราต่างหาก

และนิทานภาพสำหรับเด็กเล่มที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ปกครองหลายๆ คนนั่นก็คือเรื่อง ผีเสื้อของตั๋วตั่ว (ราคาปกเล่มละ 315 บาท ราคาในงานเล่มละ 300 บาท) หนังสือแปลจากประเทศไต้หวัน มีเนื้อหาเกี่ยวกับการถูกคุกคามทางเพศในเด็ก เนื่องด้วยเนื้อหาค่อนข้างละเอียดอ่อนจึงมาพร้อมกับคู่มือการใช้งานโดยอ้างอิงจากสถิติปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในประเทศไต้หวัน ซึ่งเล่มนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 3 ขวบ จนถึงประถมปลายเลยทีเดียว

นอกจากนี้ทาง mangmoom kids ยังมีหนังสือเล่มแรกที่มีนักเขียนคนไทยเขียน มีชื่อเรื่องว่า การเดินทางของผีเสื้อหลากสี Becoming a Butterfly (ราคาปกเล่มละ 285 บาท ราคาในงานเล่มละ 260 บาท) เป็น 12 เรื่องสั้นที่บอกเล่าเรื่องราวของนักจิตวิทยาอย่าง ครูเม-เมริษา ยอดมณฑป เจ้าของเพจ ‘ตามใจนักจิตวิทยา’ ที่ต้องรับมือ 12 เคสจิตเวชในเด็กและนำมาเขียนให้เป็นวรรณกรรมเยาวชน เราก็จะได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ว่ายังมีโรคทางจิตเวชก็สามารถเกิดขึ้นกับเด็กได้ ทำให้ผู้ปกครองตระหนักมากขึ้นว่า การไปพบจิตแพทย์เป็นเรื่องปกติ

เรามาดูกันที่สำนักพิมพ์ Amarin Kids สำหรับหนังสือชุด หนูอยากฟัง เรื่อง บ้านต้นไม้ เป็นหนังสือแปลจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลายครอบครัวน่าจะมีไว้ในครอบครอง และตอนนี้เขามีหนังสือเล่มใหม่ออกมา เรื่อง บ้านต้นไม้กับเก้าอี้หลับสบาย (ราคาปก 245 บาท ในงานลด 15 เปอร์เซ็นต์) โดยเนื้อหาจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกรู้จักทักษะต่างๆ เช่น การเข้าสังคม การมีน้ำใจ การมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

ทางสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ก็ยังมีหนังสือนิทานสำหรับเด็กออกใหม่อย่างหลากหลาย เรื่องที่ได้รับความนิยมคือ ในผ้าอ้อมมีอะไรนะ (ราคาปก 89 บาท ในงานลด 15 เปอร์เซ็นต์) เป็นเรื่องราวของหนูจิ๋วผู้อยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งอย่าง แม้แต่ในผ้าอ้อมของเพื่อนๆ เรื่องนี้จะช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ อยากจะฝึกนั่งกระโถนด้วยตัวเอง และได้เรียนรู้เรื่องลักษณะอุจจาระของสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งกระต่าย แพะ หมา วัว ม้า และหมู แถมภาพยังน่ารัก สีสันสดใสอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีเหล่าหนังสือมือสองที่มีทุกหมวดให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นนิทานภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาให้กับเจ้าตัวเล็ก คู่มือการทำอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ วิธีการเลี้ยงลูกต่างๆ ตลอดไปจนถึงหนังสือท่องเที่ยว ที่บอกได้เลยว่าราคาย่อมเยาน่าซื้อกลับบ้านอีกด้วย

งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10-20 ธันวาคม 2563 นี้ เวลา 10.00-21.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ คุณพ่อคุณแม่นักอ่านไม่ควรพลาดนะคะ