รับมือกับ’ อาการแพ้ท้อง ‘อย่างไรดี!

อาการแพ้ท้อง

เมื่อตั้งครรภ์ได้ 4-16 สัปดาห์ ว่าที่คุณแม่ส่วนมากก็มักจะต้องทนทรมานกับอาการแพ้ท้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาการแพ้ท้องส่วนมาก ได้แก่ คลื่นไส้ โดยเฉพาะช่วงเช้า แสบร้อนกลางอก ไอเรื้อรัง จมูกไวขึ้น อยากกินอะไรแปลกๆ เหนื่อยง่าย อารมณ์แปรปรวน และนอนไม่หลับ

อาการเหล่านี้เป็นอาการแพ้ท้องปกติ ที่พบเห็นได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ทั่วไป แต่คุณแม่บางคนอาจไม่มีอาการ หรือบางคนอาจมีมากเป็นพิเศษ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาเจียนมากและกินอาหารไม่ได้ จนน้ำหนักตัวลด ได้กลิ่นเหม็นไปหมดทุกอย่าง อ่อนเพลีย ไม่มีแรง และอีกสารพัดอาการ ที่คุณแม่ตั้งครรภ์คงอยากจะพร้อมใจกันตะโกนบอกใครๆ ว่า ‘ไม่มาท้องเอง ไม่เข้าใจหรอก’ (โว้ย!)

และถ้าอาการแพ้ท้องรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป คุณแม่ก็ควรให้คุณหมอตรวจดูอาการสักหน่อย แต่ถ้าอาการไม่รุนแรงมากนัก เรามีวิธีที่พอช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องให้ดีขึ้นได้

1. ลางานบ้างก็ได้

อาการแพ้ท้อง

ลองคิดดูว่า ถ้าคุณแพ้ท้อง ต้องตื่นมาอาเจียนตลอดคืน นอนก็ไม่ได้นอน แถมตอนเช้าก็ต้องตื่นแต่เช้า ฝ่ารถติดออกไปทำงาน คุณจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ทางที่ดีควรขอลางานพักผ่อนอยู่บ้านสักวัน เพื่อฟื้นฟูพละกำลัง ดีกว่าฝืนแล้วอาการยิ่งหนักขึ้นในวันถัดไป

2. พกขนมติดตัว

อาการแพ้ท้อง

ใช่แล้ว ขนม! การที่คุณตื่นเช้ามาแล้วมีอาการคลื่นไส้ นั่นเพราะคุณท้องว่างมาตลอดทั้งคืนไงล่ะ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้คุณแม่พกขนมติดตัวไว้ เช่น มันฝรั่งอบกรอบ แครกเกอร์ ชาขิง หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ เพราะอาหารทั้ง 5 อย่างนี้ จะช่วยให้อาการแพ้ท้องดีขึ้นได้

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอและมากขึ้น

อาการแพ้ท้อง

การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน จะช่วยสร้างสมดุลให้กับของเหลวในร่างกายคุณได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี

4. อย่าจ้องหน้าจอนานเกินไป

อาการแพ้ท้อง

แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเลต หรือโทรศัพท์มือถือ มีผลอย่างมากต่ออาการแพ้ท้อง แต่ถ้าคุณหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ คุณอาจตั้งเวลาว่าให้พัก 20 นาที ทุกๆ 1 ชั่วโมง และเปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่นบ้าง

 

อ้างอิง
Happy Mom
 

Fon Chalisa

คุณแม่ของเด็กชายวัย 3 ขวบ ที่กำลังคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ

RELATED POST