Judy Schaechter ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยไมอามีมิลเลอร์ (University of Miami Miller School of Medicine) และอดีตประธาน National Injury Free Coalition for Kids ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุไว้ในบทความเกี่ยวกับเด็กและอาวุธปืนว่า ประมาณหนึ่งในสามของบ้านในสหรัฐอเมริกาที่มีเด็กๆ คือบ้านที่มีอาวุธปืนเอาไว้ในครอบครอง หมายความว่า เด็กประมาณ 4.6 ล้านคน อาศัยอยู่ในบ้านที่มีปืนและบรรจุกระสุนเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมตลอดเวลานั่นเอง
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจคิดว่าการ มีปืนในบ้าน ไว้ใช้ยามฉุกเฉินเป็นเรื่องจำเป็น และอาจจะมีปืนก่อนที่จะมีลูกน้อยเสียอีก จนลืมคิดไปว่าการมี มีปืนในบ้าน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายร้ายแรงกับเด็กๆ อย่างไรบ้าง
1. อุบัติเหตุจากปืนโดยไม่ได้ตั้งใจ
อุบัติเหตุและเหตุกราดยิงโดยไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นได้ในบ้านที่มีปืนและมีเด็กๆ และสถิติพบว่าการยิงโดยไม่ได้ตั้งใจมีโอกาสทำให้เกิดการเสียชีวิตสูงกว่าการยิงโดยตั้งใจถึงสี่เท่า
ปี 2015 – 2022 ในสหรัฐอเมริกามีเหตุกราดยิงโดยไม่ได้ตั้งใจโดยเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี อย่างน้อย 2,802 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,083 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1,815 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กเล็กอย่างน้อย 895 คน ที่ค้นพบปืนในบ้านและยิงตัวเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
2. มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
อัตราการฆ่าตัวตายในเด็กและวัยรุ่นที่มีปืนอยู่ในบ้าน สูงกว่าเด็กที่ไม่มีปืนในบ้านถึงสี่เท่า ในทศวรรษที่ผ่านมา 40 เปอร์เซ็นต์ของการฆ่าตัวตายในเด็กและวัยรุ่นเกี่ยวข้องกับการใช้ปืน และ 9 ใน 10 ของการฆ่าตัวตายด้วยปืน มาจากการเข้าถึงปืนในบ้านของตนเองหรือบ้านของคนใกล้ชิด
3. เสี่ยงต่อการเกิดเหตุฆาตกรรม
เมื่อมีปืนในบ้าน หากเด็กและวัยรุ่นเกิดการทะเลาะวิวาท หรือบันดาลโทสะ อาจทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ เกิดเป็นการทำเกิดกว่าเหตุ เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการฆาตกรรมมากขึ้น 3 เท่า และ 58 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิต เกิดจากการตั้งใจฆาตกรรมและปืนที่ยิงโดยเด็กและวัยรุ่น
การดูแลเด็กๆ ให้ปลอดภัยจากปืนในบ้านหรือใกล้ตัว
American Academy of Pediatrics (AAP) แนะนำว่าบ้านที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กคือบ้านที่ไม่มีปืน แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ มีปืนในบ้าน อยู่แล้ว ควรทำอย่างไรเพื่อที่จะให้ลูกของเราปลอดภัยได้
1. หาที่เก็บปืนที่ปลอดภัย
ปืนในบ้านควรจัดเก็บในที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟ หรือที่ที่เด็กไม่สามารถนำมาหยิบเองได้ โดยปลดแมกกาซีน หรือนำกระสุนออกจากแมกกาซีนหรือลูกโม่ให้เรียบร้อย และอย่าลืมเก็บปืนที่ปลดล็อกหรือพร้อมยิงตลอดเวลาแล้วไว้ในรถหรือที่อื่นใดในบ้านเป็นอันขาด
2. นอกจากบ้านตัวเองแล้ว ต้องระวังปืนที่อยู่ในบ้านคนอื่นด้วย
จากข้อมูลประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่ามากกว่าหนึ่งในสามของการยิงปืนโดยเด็กที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เกิดขึ้นในบ้านของตัวเอง แต่เป็นการพบอาวุธปืนในบ้านเพื่อน บ้านของเพื่อนบ้าน หรือบ้านญาติ ดังนั้น หากลูกต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านคนอื่น คุณพ่อคุณแม่ควรแน่ใจว่าบ้านหรือสถานที่นั้นๆ ไม่มีปืนหรือมีวิธีการเก็บรักษาปืนให้ห่างไกลและปลอดภัยสำหรับเด็กๆ
3. สอนลูกเกี่ยวกับอันตราย เหตุผล และความจำเป็นของการมีปืน
คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างการรับรู้ให้ลูกหรือเด็กๆ ในบ้านว่า การมีปืนในบ้านหรือมีปืนไว้ในครอบครอง จะต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตตามกฎหมาย เพราะปืนนั้นเป็นอาวุธร้ายแรงที่มีไว้เพื่อป้องกันความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาทำร้าย ก่อความรุนแรง หรือทำให้เกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่น
4. ทำความเข้าใจเรื่องปืนในสื่อ
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าความรุนแรงจากปืนที่อยู่ในทีวี ภาพยนตร์ หรือแม้แต่เกมที่พวกเขาเล่น ไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นในชีวิตจริง และความเสียหายที่เกิดจากการใช้ปืนจะนำมาซึ่งความสูญเสีย เช่น บาดเจ็บ เสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส หรือทำให้เกิดความพิการตลอดชีวิตได้ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าการใช้อาวุธปืน ไม่ใช่เรื่องสนุกเหมือนที่เห็นในสื่อ แต่ถือเป็นอันตรายและการสร้างความสูญเสียเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
COMMENTS ARE OFF THIS POST