ถ้าเป็นไปได้ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็คง ไม่อยากให้ลูกต้องเจอกับสึกผิดหวังและเสียใจ เวลาที่ทำอะไรผิดพลาด ก็เลยพยายามที่จะปกป้อง ทะนุถนอม คอยช่วยเหลือและตามแก้ปัญหาให้ลูกเท่าที่ตัวเองพอจะสามารถทำได้
แต่… คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมว่า เราไม่สามารถคอยดูแล แก้ไข และปกป้องลูกได้ตลอดเวลา วันหนึ่งลูกก็ต้องเติบโตและออกไปเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันด้วยตัวเองอยู่ดี
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ความผิดพลาดด้วยตัวเองบ้าง เพราะสิ่งที่สำคัญของการทำผิดพลาดไปก็คือการที่ลูกสามารถยอมรับและหาทางแก้ไขความผิดพลาดนั้นได้ด้วยตัวเอง
เพราะถึงอย่างไร ความผิดพลาดก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ควรถือว่าเป็นโอกาสที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะปรับปรุงและแก้ไขต่อไป และความผิดพลาดนั้นก็จะกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้ลูกสามารถผ่านพ้นอุปสรรคมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น
1. ปล่อยให้ลูกเผชิญหน้ากับความผิดพลาดด้วยตัวเอง
บางครั้งความรักและความหวังดีที่มากเกินไปของคุณพ่อคุณแม่บางครั้งอาจทำให้ลูกขาดโอกาสในการเรียนรู้ เพราะลูกมีคุณพ่อคุณแม่คอยแก้ไขทุกข้อผิดพลาดให้เสมอ ก็จะเคยชินและเข้าใจว่าเมื่อทำผิดพลาด ไม่จำเป็นต้องพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของตัวเอง เช่น การที่ลูกไม่เตรียมของใส่กระเป๋านักเรียนให้พร้อม ทำให้ลูกไม่ได้หยิบสมุดการบ้านไปส่งคุณครู ผลก็คือลูกต้องยอมรับกับคุณครูด้วยตัวเอง ไม่ใช่งอแงเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่กลับไปเอามาให้ การทำอย่างนี้ จะช่วยให้ลูกเรียนรู้วิธีแก้ไขและระมัดระวังไม่ทำผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ อีก
2. พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำให้ลูกรู้สึกว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องร้ายแรงหรือเสียหายมากเกินไป แต่ควรสอนให้ลูกมองเห็นโอกาสดีที่ลูกจะได้เรียนรู้วิธีที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำเดิมขึ้นอีก เช่น เมื่อลูกทำน้ำหก แทนที่จะรีบต่อว่าหรือโวยวายที่ลูกไม่รู้จักระมัดระวัง คุณพ่อคุณแม่ควรใช้โอกาสนี้ในการสอนให้ลูกรู้ว่า ควรถือแก้วน้ำอย่างไรหรือระมัดระวังอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก
3. สอนให้ลูกรับมือกับความผิดหวัง
บางครั้งเมื่อลูกทำผิดพลาดไปแล้ว เกิดความรู้สึกแย่ เสียใจ หรือผิดหวังจากการกระทำของตัวเอง และลูกอาจจะคาดหวังที่จะได้รับคำปลอบใจมากกว่าปกติ แต่นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะคอยปลอบและทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้นแล้ว ยังควรบอกให้ลูกเข้าใจว่าความผิดพลาดและผิดหวังเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพบเจอและรับมือกับมันด้วยตัวเองให้ได้ โดยอาจจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่คุณพ่อคุณแม่เคยรู้สึกผิดหวัง แล้วอธิบายให้ลูกฟังว่าคุณพ่อคุณแม่ผ่านมันมาได้อย่างไร
4. ชื่นชมในความพยายาม
เวลาที่ลูกตั้งใจทำอะไรมากๆ แต่ผลลัพธ์กลับมาไม่ออกมาเป็นอย่างที่หวังก็ย่อมรู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรตำหนิหรือมองการที่ลูกทำไม่ได้เป็นความผิดพลาด แต่ควรมองว่าลูกมีความพยายามในการทำสิ่งนั้นมากๆ ควรชื่นชมและให้กำลังใจ เช่น บอกว่าคุณเห็นความพยายามของลูก หรือคุณรู้ดีว่าลูกตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าความพยายามของตัวเองไม่ได้สูญเปล่า แม้สุดท้ายผลจะไม่ได้ออกมาอย่างที่ต้องการมากนักก็ตาม
COMMENTS ARE OFF THIS POST