เซกชั่น Place ของเราห่างหายไปนาน เพราะบรรยากาศในช่วงปีที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะไม่สบายใจที่พาลูกออกไปเที่ยวเล่นเท่าไรนัก แต่ปีนี้ (อย่างน้อยก็ตอนนี้) จะให้ลูกเก็บตัวอยู่กับบ้านอีกปีก็คงไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

เมื่อลองถามเด็กๆ ว่าถ้ากลับไปเที่ยวได้อีกครั้ง เขาอยากจะไปไหน คิดว่าสวนสัตว์น่าจะเป็นหนึ่งในคำตอบที่เด็กๆ นึกถึง เพราะปีที่แล้วได้แต่นั่งดูสัตว์ต่างๆ อยู่ทางหน้าจอนี่นา

แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่คิดว่า ไปสวนสัตว์ออกจะยากและต้องเดินทางไกลเกินไปสักหน่อย ลองปรับรูปแบบจากสวนสัตว์มาเป็นคาเฟ่สัตว์เลี้ยงหรือสัตว์หายากที่ไม่ต้องเดินทางไกลแทนก็น่าจะดีนะคะ

Little zoo cafe คาเฟ่ที่อ่านชื่อก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คาเฟ่ธรรมดา เพราะที่นี่มีทั้งสัตว์เลี้ยงน่ารักและสัตว์หายากที่เลี้ยงและดูแลอย่างดี โดย คุณเบียร์—วชิราภรณ์ อร่ามพิบูลย์ผล เจ้าของร้านลิตเติ้ล ซู คาเฟ่ ที่นอกจากจะเป็นคนรักสัตว์แล้วยังชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์หายาก เช่น แรกคูน เมียร์แคต เฟนเน็กฟอกซ์ (fennec fox) วัลลาบี (Wallaby) รวมไปถึงเหล่าน้องหมา น้องแมว เลี้ยงไปเลี้ยงมา คุณเบียร์ก็มีสัตว์เลี้ยงรวมแล้วกว่าหนึ่งร้อยตัว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของลิตเติ้ลซูคาเฟ่ เพื่อให้ลูกค้าที่รักสัตว์เหมือนกันได้มีพื้นที่ในการใช้เวลากับเหล่าสัตว์เลี้ยงน่ารักทั้งหลายเหล่านี้

Little zoo cafe ตั้งอยู่ในคอมมูนิตี้มอล โครงการ People Park ย่านอ่อนนุช (ช่วงที่ร้านเปิดรับคนไม่เต็มจำนวน ควรติดต่อจองคิวเข้ามาก่อนนะคะ)  เมื่อมาถึงแล้วก็ชำระค่าผ่านประตู (รายละเอียดด้านล่างบทความนะคะ) ใส่ถุงเท้า และเปลี่ยนเป็นรองเท้าที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้

ก่อนเข้าไปภายในร้านอย่าลืมล้างมือให้เรียบร้อย และอ่านกฎกติกาก่อนเข้าไปเล่นกับน้องๆ ด้วยนะคะ

เปิดประตูเข้ามาโซนแรกก็พบกับแก๊งลูกหมาขาสั้นพันธุ์คอร์กี้นับสิบตัววิ่งกรูกันเข้ามาทักทาย ถ้าเด็กๆ อยากจับ อุ้ม หรือกอดน้องคอร์กี้ ก็สามารถบอกพนักงาน เพื่อให้พนักงานแนะนำวิธีการอุ้มที่ถูกต้องให้นะคะ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อน้องหมาและตัวเราเองด้วย

สมาชิกหมายังไม่หมดแค่นั้น เพราะด้านในยังมีแก๊งชิวาว่ากว่ายี่สิบตัว ที่ถึงแม้เราจะไปตรงกับเวลานอนกลางวันของพวกเขา แต่บางตัวก็เดินมาทักทายและนอนหงายให้เกาพุงเล่นก็มี

ต่อมาเป็นโซนที่เราจะได้พบกับแมวหลากหลายสายพันธุ์ เช่น อเมริกันช็อตแฮร์ สฟิงซ์ และอีกมากมาย และที่สำคัญแมวที่นี่ใจดีทุกตัว เดินมาให้ลูบหัว เกาคาง แถมยังชอบนวดคืนให้ฟรีด้วยนะ

ถัดมา จะมีห้องเล็กๆ สองห้อง เป็น ห้องแรก แค่เปิดประตูเข้าไป หนึ่งในเจ้าของห้องตัวน้อยอย่างเจ้าลูกชาย ที่ไม่ใช่เด็กผู้ชาย แต่เป็นชื่อของเฟนเน็คฟอกซ์ สุนัขจิ้งจอกที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก ที่รีบออกมาทักทายแขกผู้มาเยือนเป็นตัวแรก

และที่เริ่มตามออกมาก็คือเจ้ากีวี่—วัลลาบีหรือจิงโจ้แคระที่เห็นกล้ามเป็นมัดแบบนี้ แต่พอเห็นว่ามีคนเข้ามานั่งเล่น น้องก็เดินขึ้นมานั่งตักเลย ขี้อ้อนสุดๆ

ส่วนอีกหนึ่งห้องจะเป็นบ้านของเมียร์แคต สัตว์ป่าจากทวีปแอฟริกา ที่เด็กๆ น่าจะเคยเห็นผ่านตาในการ์ตูนหรือนิทานหลากหลายเรื่อง แต่ที่นี่จะได้เห็นและสัมผัสตัวเป็นๆ ของเมียร์แคตด้วย รับรองว่าเด็กๆ จะต้องตาลุกวาวกันแน่

โซนถัดมา น่าจะเป็นโซนขวัญใจเด็กๆ เพราะมีพระเอกของลิตเติ้ล ซู คือเจ้าแคร็กเกอร์ แรคคูนตัวอ้วนกลม มักจะมานอนแหมะอยู่ที่มุมประจำของเขา

นอกจากนี้ยังได้เจอกับหนูชินชิล่า สัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีขนนุ่มที่สุดในโลก และนกแก้วสายพันธุ์กระตั้วมอลัคคัน สามารถแจ้งพนักงานให้ช่วยอุ้มหรือจับน้องๆ มาถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกได้

เล่นกับสัตว์ต่างๆ จนอิ่มใจแล้ว เหลือแต่ท้องนี่สิที่เริ่มหิว แต่ไม่เป็นไร เพราะเราอยู่ในคาเฟ่นี่นา

ที่นี่มีทั้งขนมและเครื่องดื่ม ที่รสชาติน่าจะถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกไว้ให้เลือกซื้อไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

เรียกได้ว่ามาที่นี่ครบครันเลยทีเดียวทั้งเที่ยว อิ่มท้อง และเล่นกับสัตว์แบบใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีขนมของเหล่าหมาแมวขายเผื่อใครอยากป้อนอาหารน้องๆ กันอีกด้วย

ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 390 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน 130 ซม.) 290 บาท นำไปแลกเครื่องดื่มฟรีได้ 1 แก้ว (รวมของที่ระลึก และถุงเท้า
ที่อยู่: ตั้งอยู่ในคอมมูนิตี้มอล People Park ซอยสุขุมวิท 7
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
|โทร: 092-448-1116
facebook: www.facebook.com/littlezoocafe