บ่ายวันที่พยากรณ์อากาศทำนายว่าฝนจะตก แต่โชคเข้าข้างพวกเราที่ไม่ต้องเจออุปสรรคเป็นสายฝน แต่กลับกลายเป็นแดดจ้าและอากาศร้อนสมเป็นฤดูร้อนแห่งชาติ
ในซอยสุขุมวิท 36 เราเดินหลบแดดมาเรื่อยๆ พอถึงระยะที่พอจะมองเห็นอาคารสองชั้นสีขาว-น้ำตาลสไตล์นอร์ดิกที่ดูอบอุ่นแต่ทันสมัย ก็พอจะเดาได้ว่าตำแหน่งนั้นน่าจะเป็นโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฟินแลนด์ เฮย์ สคูล กรุงเทพฯ จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้แน่
ปี 2564 ที่เด็กๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเองไปตามสถานการณ์โลก โรงเรียนก็ต้องแบกรับภาระและปรับตัวเพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางเงื่อนไขร้อยแปดพันเก้า
ในปีเดียวกันนั้น แพร์—พรลดา วินิชบุตร คุณแม่ที่มีความสนใจในระบบการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ ได้ทำการเปิดตัวโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ เฮย์ สคูล กรุงเทพฯ ที่ได้รับสิทธิ์โดยตรงจากประเทศฟินแลนด์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
หลักสูตรที่เน้นการเรียนรู้เป็นธรรมชาติและตลอดชีวิต
หลักสูตรของ Hei Schools ทั่วโลก รวมทั้งเฮย์ สคูล กรุงเทพฯ ได้รับการพัฒนาและจัดการเนื้อหาอย่างมีมาตรฐานจาก University of Helsinki มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ภายใต้แนวคิดที่มาจากผลการวิจัยว่า ช่วงวัยที่สำคัญที่สุดต่อพัฒนาการทุกด้านของมนุษย์ก็คือช่วง 7 ปีแรก นี่จึงเป็นเวลาที่เด็กๆ ควรจะได้รับการพัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ สุขภาพ และได้รับการปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติและตลอดชีวิต (Lifelong learning)
สำหรับ เฮย์ สคูล กรุงเทพฯ คุณแพร์ได้ทำการศึกษาหาข้อมูลร่วมกับที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ เพื่อพัฒนาและปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยยังคงอยู่ในเงื่อนไขและการรับรองจาก University of Helsinki อีกด้วย
หัวใจสำคัญในการพัฒนาเด็กก็คือคุณครู
นอกจากให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของเด็กแล้ว หัวใจหลักสำคัญในการพัฒนาเด็ก ก็คือครูผู้สอน คุณแพร์เล่าว่า ในประเทศฟินแลนด์ครูของเด็กชั้นปฐมวัยถือว่ามีความสำคัญมาก ยิ่งเด็กเล็กมากเท่าไร ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของครูผู้สอนมากขึ้น เพราะครูที่เข้าใจพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเด็ก จะช่วยพัฒนาเด็กได้ดีที่สุด ดังนั้นคุณครูที่ Hei Schools ไม่เพียงแต่คัดเลือกจากคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว ยังต้องได้รับการอบรมเพื่อพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง
สร้างสภาพแวดล้อมให้ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
พูดถึงหัวใจหลักคือคุณครูไปแล้ว แต่จะมองข้ามสภาพแวดล้อมและการออกแบบโรงเรียนที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ และยังคำนึงถึงการเป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และจินตนาการ (Learning Environment) สอดคล้องกับผลการวิจัยที่ว่า สิ่งแวดล้อมมีผลต่อพัฒนาการทางความคิด พฤติกรรม และอารมณ์ของเด็กๆ
ความสุขของเด็กคือเป้าหมาย
“เรามีความเชื่อมั่นว่า เด็กๆ ทุกคนภายใต้การดูแลของเรา จะได้รับการพัฒนาพื้นฐานความเป็นมนุษย์ที่เติบโตไปพร้อมกับความสมบูรณ์ทั้งทางกายและจิตใจ สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีวุฒิภาวะ และที่สำคัญคือ มีทักษะการดำรงชีวิตอย่างความสุข” คุณแพร์บอกกับเราก่อนที่จะจบภารกิจในวันนี้
COMMENTS ARE OFF THIS POST