READING

WeLearn Academy: สถาบันการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21...

WeLearn Academy: สถาบันการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 เมื่อการเรียนทำอะไรได้มากกว่าที่คิด

welearn academy

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทำให้เด็กๆ จำนวนไม่น้อยต้องว่างเว้นจากการไปโรงเรียนและปรับเปลี่ยนมาใช้การเรียนในรูปแบบออนไลน์

หลายครอบครัวก็ใช้โอกาสนี้ในการเริ่มและทดลองทำโฮมสกูลให้ลูก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ตามวิธีการที่โรงเรียนกำหนดให้ หรือการทำโฮมสกูลให้ลูก ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจไม่ได้เหมาะกับทุกครอบครัว กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กบางคนเกิดการเรียนรู้ถดถอย และนำไปสู่การตัดสินใจออกจากระบบการเรียนในที่สุด

แต่ถ้าเราลบภาพจำของโรงเรียนและการทำโฮมสกูลทั่วไปออกไปจากสมอง แล้วคิดว่าการเรียนรู้ของเด็กๆ เกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ รูปแบบไหนก็ได้ ขอเพียงเด็กๆ มีโค้ชที่พร้อมจะสอนในสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ ให้คำแนะนำ และพร้อมที่จะแนะแนวทางที่พวกเขาอยากเติบโตขึ้นไปในอนาคต

WeLearn Academy หรือสถาบันวีเลิร์น ที่เรากำลังจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักในวันนี้ ก็จะเป็นอีกทางเลือกของการเรียนรู้ที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆ แห่งศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ย่านชิดลม คือที่ตั้งของ WeLearn Academy ศูนย์การเรียนรู้ขนาดเล็กที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยเราได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก คุณพลอย–นนทพร วงษ์ปัญญา หนึ่งในทีมงานที่อาสาพาเราเดินชมสถานที่และให้ข้อมูลที่น่าสนใจของสถาบันกับเราอย่างละเอียด

“หลายคนเข้าใจว่าวีเลิร์นเป็นติวเตอร์หรือสถาบันสอนพิเศษ แต่จริงๆ แล้ววีเลิร์นเป็นศูนย์การเรียนสำหรับเด็กที่อยากหาแนวทางการเรียนรู้แบบใหม่ ที่นี่ใช้คำว่า hybrid learning คือการผสมผสานระหว่างการเรียนออนไลน์และออนไซต์”

ทำความรู้จัก WeLearn Academy 

วีเลิร์น เปิดทำการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันมีสองสาขาคือที่ชิดลม กรุงเทพฯ และหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หลายคนเข้าใจว่าวีเลิร์นเป็นติวเตอร์หรือสถาบันสอนพิเศษ แต่จริงๆ แล้ววีเลิร์นเป็นศูนย์การเรียนสำหรับเด็กที่อยากหาแนวทางการเรียนรู้แบบใหม่ ที่นี่ใช้คำว่า hybrid learning คือการผสมผสานระหว่างการเรียนออนไลน์และออนไซต์ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ปกครองยุคนี้มาก ก็คือ อยากให้ลูกเรียนรู้โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน อาจจะด้วยเป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 หรืออยากหลีกเลี่ยงการเดินทาง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

Hybrid Learning คืออะไร?

พอได้ยินว่าวีเลิร์นเป็นสถาบันที่มีหลักสูตรออนไลน์ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะกังวลว่า แล้วจะแตกต่างการเรียนออนไลน์ของโรงเรียนทั่วไปหรือการทำโฮมสกูลหรือไม่ เราขอบอกเลยว่าแตกต่างอย่างมาก เพราะเราจะมีโค้ชส่วนตัว ช่วยออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นไปตามความสนใจของเด็กแต่ละคน ทำให้เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น

อธิบายอย่างละเอียดก็คือ วีเลิร์นเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์จากต่างประเทศ ที่ผู้ปกครองสามารถเลือกระหว่างเรียนหลักสูตรจากประเทศอังกฤษ (US) หรือสหรัฐอเมริกา (UK) โดยแต่ละหลักสูตรสามารถปรับรายวิชาตามความสนใจและการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาเรียนเด็ก ก็จะโฟกัสแค่ตารางเรียนที่ถูกออกแบบมาเพื่อตัวเอง เด็กก็จะไม่รู้สึกว่าต้องแข่งขันกับเพื่อน หรือกดดันถ้าผลการเรียนไม่ดีเท่าคนอื่น

แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะเลือกเรียนวิชาแต่วิชาที่ชอบ แล้วไม่เรียนวิชาที่ไม่ชอบ เพียงแต่ว่าเขาสามารถจัดตารางเรียนของตัวเองได้ว่าวันนี้เขาอยากเรียนวิชาอะไร และเลือกได้ว่าวันนี้เขาจะเข้ามาเรียนออนไซต์ที่สถาบันพร้อมกับเพื่อนๆ หรืออยากเรียนออนไลน์ที่บ้าน หรืออยากจะมานั่งเรียนออนไลน์ที่นี่ก็สามารถทำได้เช่นกัน

เราจะไม่มีตารางสอนว่าวันนี้เด็กๆ ต้องเรียนอะไร หรือคาบต่อไปเรียนวิชาอะไรเหมือนโรงเรียนในระบบ แต่เราจะเน้นที่ความต้องการของเด็กเป็นหลัก เช่น วันนี้เขารู้สึกว่าอยากเรียนภาษาอังกฤษจังเลย เขาก็กดเข้าไปในโปรแกรมของวีเลิร์น แล้วเลือกเรียนภาษาอังกฤษ หรือวันนี้เขาอยากเรียนคณิตศาสตร์ด้วย เขาก็เลือกเองได้ แต่ทั้งหมดจะอยู่บนพื้นฐานการกำหนดจำนวนชั่วโมงการเรียนของแต่ละวิชา ที่เด็กทุกคนต้องเก็บให้ครบ

เราแบ่งห้องเรียนตามช่วงอายุของเด็ก เริ่มตั้งแต่ 6-9 ปี, 10-13 ปี, และ 14 ปีขึ้นไป เพื่อให้สังคมของเด็กกว้างขึ้น เพราะรอบตัวเขาไม่ได้มีเพียงคนวัยเดียวกันเท่านั้น แต่เด็กจะได้เรียนรู้มากขึ้น เช่น พี่ก็จะรู้จักดูแลน้อง สอนน้อง น้องก็จะคอยดูว่าพี่ทำอะไร แล้วก็ทำตาม

รูปแบบการเรียนรู้เพื่อเด็กรุ่นใหม่

“ภารกิจหลักของวีเลิร์นคือการนำเสนอการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคที่ดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับมนุษย์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากขึ้น ในราคาที่ไม่แพงเกินไป แต่มีความเป็นส่วนตัวสูงและมีคุณภาพสูงสุดแก่เด็กๆ ในประเทศกำลังพัฒนา

และวีเลิร์นจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วย ‘การอำนวยความสะดวกแบบโฮมสกูลในรูปแบบผสมผสาน’ หมายถึงการนำเสนอหลักสูตรออนไลน์ที่ได้รับการรับรอง ให้กับนักเรียนโดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลของเราเอง จากนั้นจึงนำหลักสูตรวิชาการไปใช้ในศูนย์การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ตามโครงการของเรา นักเรียนก็จะได้รับทั้งประกาศนียบัตรการศึกษาผ่านโรงเรียนออนไลน์ และใบรับรองผลการเรียนตามความสามารถ องค์ประกอบหลักทั้งสองนี้จะรับรองความเป็นเลิศของนักเรียนวีเลิร์น เพื่อการประสบความสำเร็จในโลกดิจิทัล” เดวิด โดแรน ผู้ก่อต้ัง WeLearn Academy ฝากข้อความให้ทีมงานวีเลิร์นมาบอกกับเราในวันนี้

วีเลิร์นเหมาะกับใคร?

อย่างแรกคือ วีเลิร์นเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากทำโฮมสกูลให้ลูก แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถสอนลูกได้หรือเปล่า อย่างที่สองคือเหมาะกับเด็กที่มีแพสชั่นเป็นของตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และสุดท้าย เราเหมาะกับเด็กที่มีความพิเศษ เช่น เด็กเรียนเร็วกว่าเพื่อน หรือเด็กเรียนช้ากว่าเพื่อน

เด็กที่นี่ส่วนใหญ่จะรู้ว่าตัวเองชอบและอยากทำอะไร เช่น อยากเป็นนักบัลเล่ต์ นักแข่งมอเตอร์ไซค์ หรืออยากเป็นนักแสดง เมื่อเขารู้แล้ว ใจของเขาก็จะไปโฟกัสสิ่งนั้นมากกว่าการใช้ชีวิตในโรงเรียน

เส้นทางการเรียนของเด็กๆ วีเลิร์น

ถ้าเด็กๆ เรียนจบแล้ว ก็จะได้วุฒิการศึกษาตามหลักสูตร UK หรือ US ที่เขาเลือกเรียนเอาไว้ ซึ่งสามารถใช้เรียนต่อในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรเดียวกันได้ทั้งในและต่างประเทศ และถ้าวันหนึ่งเขาอยากกลับเข้าโรงเรียนในระบบของไทย ก็สามารถสอบ GED เพื่อเทียบวุฒิกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนไทยได้

ส่วนเด็กที่มาจากโรงเรียนไทยทั่วไปแล้วอยากเปลี่ยนมาเรียนกับวีเลิร์น สิ่งสำคัญก็คือเด็กควรที่มีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวมาก่อน เพราะการเรียนการสอนของเราเป็นการใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด

ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ เทคโนโลยี และการเรียนที่ทันสมัย

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคน วีเลิร์นจึงต้องมีอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย เช่น หุ่นยนต์ (AI) ที่โต้ตอบได้ การทัศนศึกษาที่เหมือนจริง (AR/VR) และอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ที่ทำให้เด็กนักเรียนก้าวทันในยุคเทคโนโลยีมากขึ้น

“เด็กๆ ที่นี่ไม่ได้เรียกผู้สอนว่าคุณครู แต่จะเรียกว่าโค้ช เพราะเรามีแนวคิดว่าเด็กๆ มาที่นี่เพื่อเรียนรู้ทุกอย่าง ไม่ใช่การนั่งเรียน หรือนั่งฟังคุณครูเพียงอย่างเดียว”

โค้ชคือเพื่อนที่ดีที่สุด

เด็กๆ ที่นี่ไม่ได้เรียกผู้สอนว่าคุณครู แต่จะเรียกว่าโค้ช เพราะเรามีแนวคิดว่าเด็กๆ มาที่นี่เพื่อเรียนรู้ทุกอย่าง ไม่ใช่การนั่งเรียน หรือนั่งฟังคุณครูเพียงอย่างเดียว แต่เรามีโค้ช ซึ่งทำหน้าเหมือนผู้คอยแนะนำแนวทาง ให้เด็กได้ค้นหาตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

สภาพแวดล้อมที่คำนึงถึงความต้องการเด็กเป็นหลัก

เราตั้งใจออกแบบสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับความต้องการของเด็กๆ เช่น ถ้าต้องการใช้สมาธิ เราก็มีห้องเรียนส่วนตัวให้ หรือถ้าเด็กๆ เขาอยากเรียนหรือทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ก็สามารถใช้ห้องประชุมได้

ดังนั้น หนึ่งวันของเด็กๆ ที่นี่จึงแตกต่างจากกิจวัตรในโรงเรียนทั่วไป เพราะเมื่อเขามาถึง เขาอยากเล่น หรืออยากทำกิจกรรมอื่นก่อนก็ได้ และเมื่อเขารู้สึกพร้อมที่จะเรียน ก็ค่อยเข้าเรียน

WeLearn Acadamy
รับนักเรียนตั้งแต่อายุ: 6-14 ปี ขึ้นไป
1 ปีการศึกษาแบ่งเป็น 3 ภาคเรียน
ค่าธรรมเนียมการศึกษา
สำหรับเด็กอายุ 6-9 ปี: 89,880-192,600 ต่อปี
สำหรับอายุ 10-13 ปี: 128,400-192,600 ต่อปี
อายุ 14 ปีขึ้นไป: 128,400-192,600 ต่อปี
ที่อยู่: ชั้น 2 อาคารมณียา ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ
เบอร์ติดต่อ: 02-117-3278
website: welearnthailand
facebook: WeLearn

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

COMMENTS ARE OFF THIS POST