เมื่อเด็กและสัตว์อยู่ด้วยกัน มันก็จะตามมาด้วยความวุ่นวายหน่อยๆ แต่คงเทียบไม่ได้กับประสบการณ์น่ารักๆ ที่เด็กๆ จะได้รับ เราเลยอยากแนะนำคาเฟ่สัตว์ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่หมา แมว กระต่าย ไปจนถึงสัตว์นำเข้าอย่างสุนัขจิ้งจอก กบ หรือสายแข็งจะลองพาหนูน้อยไปดูคาเฟ่ที่มีงูด้วยก็ยังได้ แต่จะเป็นคาเฟ่ไหนๆ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมดูแลน้องๆ อย่างใกล้ชิดกันด้วยเนอะ
1. Petaholic Café
คาเฟ่สีพาสเทลที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน น่ารักตั้งแต่ยังไม่เข้าประตูร้าน ในร้านตกแต่งด้วยสีสันและสไตล์สุดน่ารักไปจนถึงบรรดาขนมและเครื่องดื่มสีมุ้งมิ้ง ก่อนที่จะมาเจอกับเหล่าพระเอกของร้าน เป็นมะหมาสี่ขาไม่ซ้ำพันธุ์ตั้งแต่เซนต์เบอร์นาร์ดตัวโต, เชตแลนด์ ชีปด็อก, ไซบีเรียนฮัสกี้, ดัชชุน ไปจนถึงขวัญใจเด็กๆ อย่างน้องคอร์กี้ ที่จะทำตัวเป็นเจ้าบ้านคอยต้อนรับเราอย่างเป็นมิตร แต่ขอความร่วมมือคุณพ่อคุณแม่ดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดด้วยจ้า
ค่าเข้า:
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 อย่าง
เปิด: วันอังคาร-อาทิตย์
เวลา: 11:00-20:00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/uvBBDzs5qPF2 (ร้านอยู่ก่อนถึงสะพานข้ามไปมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช) เทศบาลนครนนทบุรี
สอบถามเพิ่มเติม: Petaholiccafe
2. Rabbito Café
เด็กๆ บ้านไหนตกเป็นทาสกระต่ายหูยาวยกมือขึ้น ต้องคาเฟ่นี้เลย Rabbito Café ที่ให้ทุกคนมาดูน้องกระต่าย ทั้งหูตั้ง หูตก หูสั้น หูยาว หลากหลายสายพันธ์ุและสีสันกระโดดไปมา (หรือไม่ก็นอนเล่นตามอัธยาศัย) จะเล่นกับน้องด้วยความละมุนละไม หรือจะให้อาหารก็ยังได้
แต่ด้วยความที่กระต่ายเป็นสัตว์ที่แสนจะนุ่มนิ่มและตกใจง่าย ถึงแม้จะดูน่ารักไม่มีพิษภัย แต่หากกระต่ายหงุดหงิดก็อาจกัดเอาได้เหมือนกัน ดังนั้น คุณแม่คุณพ่อต้องคอยระวังเมื่อเด็กๆ เล่นกับกระต่ายสักนิด
ค่าเข้า:
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งอาหารอย่างน้อยคนละ 100 บาท
เปิด: วันอังคาร-อาทิตย์
เวลา: 12:00-19:00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/taFtTH5aX8x (ปากซอยสุขุมวิท 101/1)
สอบถามเพิ่มเติม: CafeRabbito
3. Cat Human Café
สัตว์ขนฟูที่เรียกเหมียวๆ เดี๋ยวก็มา (ที่ไหนล่ะ) เป็นสัตว์ตัวโปรดของเด็กๆ จำนวนไม่น้อย และใครอยากเล่นกับพลแมว เราขอชวนมาเล่นกันที่ Cat Human Café คาเฟ่ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ที่รวบรวมเจ้าเหมียวหลากหลายสายพันธุ์ไว้เกือบ 30 ตัว สับเปลี่ยนกันมาโชว์ตัวให้เล่นด้วยได้อย่างไม่หวง (ในขอบเขตกฎของร้าน) แต่ก่อนอื่นต้องฟังพี่พนักงานที่จะคอยแนะนำนิสัยของแมวแต่ละตัว ก่อนที่จะปล่อยให้เราเข้าไปเล่นกับแก๊งแมวเหมียวในห้องชั้นสองของร้าน ซึ่งแยกออกจากโซนกินอาหาร จนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความสะอาด แต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องดูแลเด็กๆ ตอนที่เล่นอยู่กับแมวกันเองสักนิด
ค่าเข้า:
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 อย่าง
เปิด: วันอังคาร-อาทิตย์
เวลา: 11:00-19:00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/8ZtitQ1UtbQ2 (พุทธมณฑลสาย 2)
สอบถามเพิ่มเติม: Cathumancafe
4. Big Dog Café
เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ มาทางนี้ ใครที่ชื่นชอบหมาตัวใหญ่เกือบเป็นหมี ต้องที่ Big Dog Café คาเฟ่ย่านรัชดาที่คัดมะหมาพันธุ์ใหญ่แต่ใจดี อย่างคอมอนดอร์ (Komondor), อลาสกันมาลามิวต์ (Alaskan Malamute), ทิเบตันแมสติฟฟ์ (Tibetanmastiff), เชาเชา หรือไม่ก็พันธุ์ที่เราไม่คุ้นตาแต่น่าฟัดอีกหลายตัว ที่ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรต่อทั้งผู้ใหญ่และเจ้าตัวเล็ก แต่ตัวไหนที่เป็นมิตรจนขี้แกล้งไปสักหน่อย ก็จะมีพี่สตาฟผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
นอกจากมีประชากรหมาใหญ่ให้ได้เล่นและได้ฟัดจนคับคั่ง อาหารของที่ร้านก็มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มน่ากิน และยังมีสระว่ายน้ำสำหรับน้องหมาอีกด้วย ใครจะไปอย่าลืมเช็กรอบกับทางร้านนะ เพราะเขาปล่อยพี่น้องมะหมาออกมาเป็นรอบๆ จ้า
ค่าเข้า:
ผู้ใหญ่ 199 บาท
เด็กที่ส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซม. 150 บาท
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 09:00-22:00 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/BbRaCsEwTpF2 (เขตดินแดง)
สอบถามเพิ่มเติม: Bigdogcafe
5. Little Zoo Café
ถ้าใครคิดว่าคาเฟ่ที่มีสัตว์ชนิดเดียวมันน้อยไป ต้องที่ Little Zoo Café เลย เพราะไม่ได้มีแต่น้องหมาสี่ขาเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์แปลกที่นำเข้ามาอย่างเมียร์แคต (Meerkat)—สัตว์ตระกูลพังพอนที่มีต้นกำเนิดจากทะเลทราย, แร็กคูนจอมซน, แมวคาราคัล (Caracal Cat)—แมวป่าขนาดกลางหน้าตาคล้ายสิงโต และไฮไลต์ที่เด็กๆ ต้องชอบ จิ้งจอกเฟนเนก (Fennec Fox)—สุนัขจิ้งจอกหูยาวที่ตัวเล็กที่สุดในโลก มาเล่นและถ่ายรูปกับเหล่าสัตว์แปลกกันได้ มีทั้งสาขาเมืองทองธานีและสาขาสยามเลย
โดยทั้งสองสาขาจะแบ่งเป็นห้องสำหรับสัตว์ใหญ่และสัตว์เล็ก ห้องสัตว์ใหญ่อย่างแร็กคูนจะจำกัดส่วนสูงของเด็กๆ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย (เพราะแร็กคูนขนาดตัวใหญ่จริงๆ ทางร้านบอกมา) ส่วนห้องสัตว์เล็กที่มีเหล่าหมา ทั้งชิวาว่า, ปอม, ไชนีสเครสเต็ด, หนูแกตส์บี้, หนูฮิปโป, นกคอกคาทีล, กระต่าย และชินชิลล่า เด็กๆ สามารถเข้าได้โดยที่มีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
ค่าเข้า:
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งเครื่องดื่ม 1 อย่าง และอาหาร 1 อย่างต่อคน
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 10:30-19:00 น.
พิกัด:
https://goo.gl/maps/t9YyPHRqfkB2 (สาขาสยาม)
https://goo.gl/maps/ognrAYUPU4S2 (สาขาเมืองทองธานี)
สอบถามเพิ่มเติม: Littlezoocafe
6. Zoota Bistro
คาเฟ่ที่รวบรวมบรรดาสัตว์หลากชนิดที่มาจากหลายมุมโลกไว้ด้วยกัน ทั้งเต่า นกคอกคาทีล หนูแกสต์บี้ขนยาวและหนูฮิปโปที่ไม่มีขน แมวแบมบิโน (Bambino Cat)—แมวไร้ขนขาสั้น หมาพันธุ์ไชนีส เครสเต็ด (Chinese Crested)—ที่หน้าตาน่ารักแบบไม่ธรรมดา และยังมีสัตว์อื่นๆ ที่เราไม่ค่อยได้แตะต้องตามคาเฟ่ทั่วไป อย่างแพรี่ด็อก หมูจิ๋ว จิ้งจอกเฟนเนก เม่นจิ้งจอก วอลลาบี—จิงโจ้ขนาดเล็ก ไปจนถึงตุ๊กแกเสือดาว (Leopard Gecko), กบต้นไม้ (Tree Frog), งูคอร์น (Corn Snake) และงูหลามบอล (Ball Python) เรียกว่ามาทีเดียวได้เจอกับบรรดาสัตว์สองขา สี่ขา และไม่มีขาอย่างไม่ซ้ำกันเลย
ด้วยความที่มีสัตว์หลากชนิด คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลกับความปลอดภัยของเด็กๆ ทางร้านเองก็ขอความร่วมมือให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเมื่อเด็กๆ อยู่กับสัตว์อย่างใกล้ชิด โดยที่แต่ละโซนจะมีพนักงานที่มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสัตว์ คอยให้คำชี้แนะกับลูกค้าที่อยากลองสัมผัสสัตว์ชนิดต่างๆ อีกด้วย
ค่าเข้า:
ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 อย่าง
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 10:30-21:30 น.
พิกัด: https://goo.gl/maps/rENDSw38ecs (Central Festival Eastville)
สอบถามเพิ่มเติม: Zootabistro
และแม้ว่าทุกคาเฟ่ที่เราชวนให้พาเด็กๆ ไปจะเป็นมิตรต่อเด็ก พวกเราก็ต้องอย่าลืมดูแลลูกน้อยให้เป็นมิตรต่อสัตว์ด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งเด็กๆ อาจยังกะแรงในการเล่นกับสัตว์ไม่ถูก หรือเผลอลืมไปว่าสัตว์เหมือนตุ๊กตาหมาแมวที่บ้าน สัตว์ก็อาจบาดเจ็บได้เช่นกัน
NO COMMENT