โรงพยาบาลหลายแห่งที่มณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของประเทศและมณฑลเจียงซีทางภาคใต้ของประเทศประกาศปิดแผนกสูติ-นรีเวชแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

ล่าสุด โรงพยาบาลที่นครกานโจว มณฑลเจียงซีนั้นมีที่ปิดแผนกข้างต้นไปแล้วถึง 5 แห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเจียงชาน ที่มณฑลเจ้อเจียงด้วย

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลจีนพยายามหาวิธีทางให้คนหนุ่มสาวหันมามีลูกมากขึ้น ท่ามกลางสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สวนทางกันกับปริมาณคนวัยทำงานเพื่อส่งภาษีให้รัฐนำมาจุนเจือสวัสดิการผู้สูงอายุที่นับวันจะหดตัวลงเรื่อยๆ

ด้านสถิติเด็กเกิดใหม่ในจีนทำสถิติต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยมีเด็กเกิดใหม่ต่ำสถิติและผู้เสียชีวิตสูงเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 สร้างความหวาดเกรงว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ

ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติจีนบ่งชี้ถึงแนวโน้มการลดลงของเด็กเกิดใหม่ต่อเนื่อง โดยค่าดัชนีลดลงเหลือ 793 เมื่อปี 2564 จากเดิม 807 เมื่อปี 2563

เดลี อิโคโนมิกส์ นิวส์ สำนักข่าวท้องถิ่นจีน ระบุว่า การทยอยปิดแผนกสูติ-นรีเวชของสถานพยาบาลหลายแห่งสะท้อนถึงการลดลงของเด็กเกิดใหม่ถึงระดับที่ไม่เพียงพอให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับแผนกข้างต้นได้อีกต่อไป ถือเป็นมหันตภัยด้านวิกฤตประชากรที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ

อ้างอิง
khaosod