READING

กลัวลูกไม่สูง: 4 เทคนิควิธีเพิ่มความสูงให้ลูกตั้งแ...

กลัวลูกไม่สูง: 4 เทคนิควิธีเพิ่มความสูงให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก

กลัวลูกไม่สูง

คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่มักจะมีความกังวล เวลาที่เห็นว่าลูกตัวเล็กกว่าคนอื่น พอเริ่มโต เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็เริ่มตัวโตกว่า สูงกว่า ก็ยิ่งเริ่ม กลัวลูกไม่สูง กลัวลูกตัวเล็ก โตไม่ทันคนอื่น แล้วก็จะนึกโทษว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์ของคุณพ่อคุณแม่และการเลี้ยงดูที่ไม่ดีพอหรือเปล่า…

จากกราฟแสดงการเจริญเติบโตของเด็ก ที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2006 ระบุว่าเด็ก ในช่วงอายุ 2-5 ขวบ จะสูงขึ้นประมาณ 6.3 – 8.9 เซนติเมตรต่อปี และอายุ 5 ขวบ เด็กอาจจะสูงได้ถึง 120 เซนติเมตร ซึ่งชี้วัด

เมื่ออายุ 10 ขวบ เด็กจะสูงขึ้นประมาณ 6.3 เซนติเมตรต่อปี และร่างกายจะเพิ่มความสูงอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรืออายุประมาณ 11 ปี หรือช่วงวัยก่อนมีประจำเดือนสำหรับเด็กผู้หญิง ส่วนเด็กผู้ชาย ความสูงจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วในช่วงอายุประมาณ 12-15 ปี และจะเริ่มหยุดสูงเมื่ออายุประมาณ 18-21 ปี

จากผลการสำรวจปี 2560 โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เด็กชายไทยมีความสูงเฉลี่ย 170 เซนติเมตร และเด็กผู้หญิงไทยสูง 157 เซนติเมตร

และถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะทราบกันดีว่า หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อความสูงของลูกก็คือพันธุกรรมของคุณพ่อคุณแม่ แต่ต้องไม่ลืมว่า นอกจากพันธุกรรมแล้ว อีกปัจจัยที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตและความสูงของลูกก็คือการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม โภชนาการ และสุขลักษณะที่มีผลต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น growth hormone รวมถึงฮอร์โมนเพศ

ดังนั้น ถ้า กลัวลูกไม่สูง คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับลูกอย่างต่อเนื่องได้ด้วย 4 เทคนิควิธีเพิ่มความสูงให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก

1. เสริมความสูงด้วยอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน แคลเซียม และสังกะสี

ChildsHeight_web_1

ลูกในวัยอนุบาลมักจะเลือกกิน กินยาก ชอบกินขนมมากกว่าอาหารมีประโยชน์ที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจเลือกหามาให้ แต่ถึงอย่างนั้น ช่วงวัยนี้ก็จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะโปรตีน แคลเซียม และสังกะสี

จากบทความทางการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารของคณะเภสัชศาสตร์ ของ Coimbatore Medical College ประเทศอินเดีย ระบุว่า

#อาหารที่อุดมด้วยสังกะสี เช่น จมูกข้าวสาลี ถั่วลิสง ปู และฟักทอง จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมถึงความสูงของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของผิวพรรณ ฟัน กระดูก ผม เล็บ กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และการทำงานของสมอง

#นม มีทั้งโปรตีนและแคลเซียม ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตดี ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และทำให้กระดูกแข็งแรง

#ไข่ สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ กรมอนามัยแนะนำว่า ควรกินไข่สุกวันละ 1 ฟอง เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนสูง และยังอุดมไปด้วยวิตามิน B2 หรือไรโบฟลาวิน ที่ทำให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรง และสามารกินเพิ่มเป็นวันละ 2-3 ฟองรวมกับอาหารชนิดอื่นๆ เพื่อความสูงให้กับลูกทุกช่วงวัยได้

2. เติมความสนุก เพิ่มความสูงด้วยการกระโดดโลดเต้น

ChildsHeight_web_2

การกระโดดเป็นกิจกรรมที่เล่นได้ทุกวัน ช่วยทำให้จิตใจแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง พัฒนากล้ามเนื้อ เสริมสร้างทักษะด้านการเคลื่อนไหว การทรงตัว ดีต่อระบบการทำงานของหัวใจ และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อความสูงของลูก

เด็กๆ สามารถกระโดดโลดเต้นได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่กระโดดข้ามท่อนไม้ตอนเดินป่า กระโดดเหยียบแอ่งน้ำเล็กๆ กระโดดเชือก กระโดดตบ กระโดดหนังยาง รวมไปถึงการเล่นแทรมโพลีน

#การเล่นแทรมโพลีน จากการศึกษาของ NASA ระบุ การกระโดดเด้งดึ๋งหรือการรีบาวด์ในกีฬาบาสเกตบอล เป็นการออกกำลังที่มีแรงกระแทกต่ำ เหมาะกับเด็กๆ ในทุกช่วงวัย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยปกป้องกระดูกและข้อต่อที่กำลังพัฒนาของเด็กๆ

ในขณะเดียวกันยังทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ทำให้เด็กมีกระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อต่อและกระดูกสันหลัง และมีประสิทธิภาพดีกว่าการวิ่ง หรือกล่าวได้ว่าเมื่อเด็กๆ กระโดดรีบาวด์ 10 นาที จะมีประโยชน์เทียบเท่ากับการวิ่งถึง 30 นาที

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังสนับสนุนให้ลูกเล่นกีฬาเพิ่มความสูงได้ตั้งแต่ยังเล็ก เช่น กีฬาบาสเกตบอล ว่ายน้ำ หรือการทำโยคะท่าง่ายๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย

รวมไปถึงการยืดเหยียดร่างกาย ด้วยการนั่งเหยียดขาทั้งสองข้าง แล้วค่อนๆ โน้มตัวไปสัมผัสนิ้วเท้า การออกกำลังกายง่ายๆ นี้จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหลัง นอง และนวดกล้ามเนื้อขาได้ดี ทั้งยังมีส่วนช่วยทำให้ท่าทางยืน เดิน และนั่งของลูกดีขึ้นตามไปด้วย

3. นอนหลับให้สนิท เพื่อกระตุ้นการสร้าง growth hormone

ChildsHeight_web_3

การนอนหลับมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เพราะระหว่างการนอนหลับ ร่างกายจะสร้าง growth hormone หรือฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้อย่างต่อเนื่อง ตรงกันข้ามการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ลูกเติบโตช้า ตัวเล็ก หรือตัวเตี้ยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

จากการศึกษาของ Frederick J. Zimmerman ศาสตราจารย์ในภาควิชาบริการสุขภาพของ UCLA School of Public Health ระบุว่า เด็กเล็กที่นอนไม่เพียงพอ เสี่ยงเป็นโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์

โดยเฉพาะเด็กอายุ 6 – 8 ปี เมื่อรู้สึกเหนื่อยจากการนอนไม่พอ จนไม่สามารถออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงกลางวัน ก็มักจะทดแทนหรือชดเชยตัวเองด้วยการกินอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กอ้วน แทนที่จะตัวสูงตามช่วงวัยอย่างเหมาะสม

ตามคำแนะนำของ Amy Jordan ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อและกลุ่มเด็กกำลังพัฒนาของศูนย์นโยบายสาธารณะ Annenberg แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียให้คำแนะนำว่า ควรปิดทีวี ปิดหน้าจอเวลา ปิดแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เนื่องจากแสงสว่างเหล่านี้จะทำให้การผลิตเมลาโทนินช้า ทำให้หลับยากขึ้น หลีกเลี่ยงการให้เด็กพบเจอกับเรื่องราว หรือเนื้อหาในนิทานที่มีความน่ากลัว อาจสะดุ้งตื่นในตอนกลางคืน

หากลูกหลับยาก ให้คุณพ่อคุณแม่เปิดเพลงคลาสสิก หรือเสียงเปียโนคลอเบาๆ จะสามารถช่วยให้หลับสบายมากขึ้น ส่งผลให้ฮอร์โมนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

4. ทำนายความสูงของลูกด้วย สูตร 2 × 2

ChildsHeight_web_4

#สูตรสองคูณสอง คือการคาดคะเนความสูงของลูก จากการนำค่าความสูงของลูกตอนอายุ 2 ขวบ คูณด้วยสอง เช่น ตอนลูกอายุ 2 ขวบ สูง 94 เซนติเมตร นำ 94 × 2 = 188 เซนติเมตร

American Academy of Pediatrics ระบุเพิ่มเติมว่า ส่วนใหญ่เด็กผู้หญิงจะสูงเร็วกว่าเด็กผู้ชาย ดังนั้นสูตรสองคูณสองนี้ ให้เปลี่ยนเป็น ความสูงของลูกสาวตอนอายุ 18 เดือนหรือ 1 ขวบครึ่ง แล้วคูณสองแทน

#การคำนวณความสูงสุดท้ายจากความสูงของพ่อแม่ (Mid-parental height method) สำหรับลูกชาย ให้บวกความสูงของพ่อแม่เข้าด้วยกัน หารด้วย 2 แล้ว บวกอีก 2.5 นิ้ว (หรือ 6.35 เซนติเมตร) ส่วนลูกสาว ให้บวกส่วนสูงของพ่อแม่ทั้งสองเข้าด้วยกัน หารด้วยสองแล้วลบ 2.5 นิ้ว (หรือ 6.35 เซนติเมตร) ก็จะได้ตัวเลขคาดการณ์ความสูงของลูกในอนาคตได้

อ้างอิง
verywell
researchgate
eatright
webmd
medical news today
hikeitbaby
brisbane kids

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

COMMENTS ARE OFF THIS POST