ทารกกับปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องคู่กัน โดยเฉพาะผิวหนังที่บอบบาง เดี๋ยวก็ขึ้นเป็นผดเม็ดเล็กๆ เดี๋ยวก็ขึ้นผื่นแดงเป็นจ้ำเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด
เพราะทารกเพิ่งคลอด ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพอากาศและความเป็นอยู่ ร่างกายทารกจึงพยายามปรับตัว และส่งผลออกมาในรูปแบบต่างๆ
แม้จะดูเป็นเรื่องน่ากังวลใจ แต่จริงๆ แล้วปัญหาผิวหนังบางชนิดที่เกิดกับทารกนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อย่างที่คุณพ่อคุณแม่กังวล เพราะเกิดแล้วหายเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องทายาหรือทำการรักษาใดๆ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกต หากลูกมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยขณะมีผื่นขึ้นผิวหนัง เช่น มีไข้ กินน้อย มีตุ่มแดงที่เหงือก ฯลฯ ถ้าเป็นอย่างนั้น จึงควรพาลูกพบแพทย์ทันที
และนี่คือ 5 ปัญหาผิวๆ ที่มักเกิดขึ้นกับเบบี๋
1. ผดทั่วไป (Milia)
![babyskin_web_1 babyskin_web_1](https://aboutmom.co/wp-content/uploads/2019/11/babyskin_web_1-500x500.jpg)
มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดขาวเหลือง มักจะขึ้นบริเวณหน้าผาก จมูก และแก้มของทารก แต่บางครั้งก็อาจขึ้นบริเวณเหงือกและกลางเพดานภายในช่องปากได้
ผด เกิดจากการตกค้างของไขมันหรือที่เรียกว่าซีบัม (sebum) และเคราติน (keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในหนังกำพร้า ผม และเล็บ ทำให้กลายเป็นตุ่มผดเม็ดเล็กๆ อาจจะขึ้นเป็นกลุ่ม หรือเม็ดเดี่ยวๆ ก็ได้ แต่จะไม่มีการอักเสบ บวมแดง หรืออาการคันร่วมด้วย
ตามปกติ ผดสามารถเกิดขึ้นกับทารกและสามารถหายเองได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องทายา แต่ต้องหมั่นรักษาความสะอาด ไม่สัมผัสหรือแคะแกะเกาให้ลูก เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบระคายเคืองและติดเชื้อได้
2. ต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis)
![babyskin_web_2 babyskin_web_2](https://aboutmom.co/wp-content/uploads/2019/11/babyskin_web_2-500x500.jpg)
จู่ๆ ผิวของเจ้าตัวน้อยก็ลอกออกมาเป็นขุยๆ เหมือนรังแคของผู้ใหญ่ อาการนี้เรียก ‘ต่อมไขมันอักเสบ’ เป็นอาการที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด มักมีลักษณะเป็นผื่นแดงพร้อมสะเก็ดเหลืองปกคลุมอยู่ รวมถึงผิวหนังจะมัน และลอกเป็นขุย
ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณหนังศีรษะ ไรผม รองลงมาจะเป็นใบหน้า หู คอ และบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม
ต่อมไขมันอักเสบ (seborrheic dermatitis) สามารถหายเองได้ แต่ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่หากพบว่าลูกผิวหนังลอกเป็นขุยมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์
3. ผดร้อน (miliaria)
![babyskin_web_3 babyskin_web_3](https://aboutmom.co/wp-content/uploads/2019/11/babyskin_web_3-500x500.jpg)
ผดร้อน เป็นโรคผิวหนังที่เจ้าตัวน้อยหลายบ้านต้องเผชิญ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทยกับผิวหนังของทารกที่ยังระบายเหงื่อได้ไม่ดีพอ ไม่ดีจนอุดตัน
ผดร้อนมีทั้งหมด 3 ลักษณะด้วยกัน คือ ผดตุ่มแดง ผดตุ่มใส และผดตุ่มหนอง มักขึ้นตามข้อพับแขน ขา คอ หน้า แต่ไม่ได้อันตรายใดๆ และสามารถหายเองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ผดไม่ขึ้นซ้ำอีกได้ ด้วยการให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย หลีกเลี่ยงให้ลูกไปเจออากาศร้อนจัด หรือปล่อยให้ลูกตัวแห้งเองหลังอาบน้ำ สำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ใช้ครีมหรือโลชั่นทาบริเวณผดร้อน เพราะจะทำให้หายช้าและเกิดการอักเสบได้
4. สิว (neonatal acne)
![babyskin_web_4 babyskin_web_4](https://aboutmom.co/wp-content/uploads/2019/11/babyskin_web_4-500x500.jpg)
คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจตกใจเมื่อเห็นผิวของลูกเต็มไปด้วยเม็ดขาวออกแดง กระจายเต็มตามแก้ม คาง หน้าผาก เปลือกตา คอ และศีรษะ ดูอย่างไงก็เหมือนสิวของผู้ใหญ่อย่างเราๆ แต่ ลูกยังเป็นเด็กอย่างนี้ แล้วจะมีสิวได้อย่างไร
ที่จริงแล้วทารกก็เป็นสิวได้นะคะ ทางการแพทย์สันนิษฐานว่าว่าสิวของทารกเกิดจากฮอร์โมนของแม่ที่ถูกส่งต่อมายังลูกในปริมาณมาก เลยทำให้ถูกกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น โดยมักจะขึ้นในเด็กอายุสองสัปดาห์ขึ้นไป
แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเครียดหรือกังวลไปค่ะ เพราะสิวทารกสามารถหายเองได้ในเวลาไม่นาน โดยไม่จำเป็นต้องทายาหรือครีมใดๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหนังของลูกอุดตันมากขึ้นไปอีก
5. ผื่นแดง (erythema toxicum)
![babyskin_web_5 babyskin_web_5](https://aboutmom.co/wp-content/uploads/2019/11/babyskin_web_5-500x500.jpg)
ผื่นแดงสามารถขึ้นได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 10 วัน โดยมีลักษณะเป็นแผ่นปื้นแดงๆ ขนาด 1-3 ซม. มีตุ่มใสอยู่ตรงกลางคล้ายตุ่มหนอง พบได้ทั่วบริเวณของอก หลัง หน้า ส่วนต้นของแขนขา แต่จะไม่พบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าค่ะ
ผื่นแดงเป็นโรคทางผิวหนังที่ยังคงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่สำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนที่จะไม่ยุ่งกับผื่นของลูก เพราะผื่นแดงสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา และจะเริ่มยุบหลังเป็นมาแล้ว 5 วัน เมื่อครบ 1-2 สัปดาห์ก็จะทยอยหายไปจนหมด
COMMENTS ARE OFF THIS POST