ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ใหญ่อย่างเราย่อมเคยผ่านประสบการณ์หรือรู้สึกถึงความได้เปรียบของคนที่รูปร่างหน้าตาดีหรือเด็กที่น่ารักตามค่านิยมของคนส่วนใหญ่ในสังคม
Beauty Privilege หมายถึงสิทธิพิเศษสำหรับคนหน้าตาดี หรือความเลื่อมล้ำรูปแบบหนึ่งที่คนมีรูปร่างหน้าตาดีมักจะได้รับโอกาส การยอมรับ หรือสิทธิพิเศษต่างๆ มากกว่าคนอื่น โดยสามารถเกิดขึ้นและพบเจอได้ในทุกสังคมและทุกช่วงวัยของชีวิต แม้แต่สังคมเด็กเล็ก เช่น ในโรงเรียนมักจะมีการการคัดเลือกนักเรียนหน้าตาน่ารักเป็นตัวแทนทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เด็กที่น่ารักและหน้าตาดีมักจะได้รับความสนใจจากเพื่อนๆ และคุณครูมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจาก The University Wisconsin Madison เผยว่า เด็กนักเรียนที่มีหน้าตาตามมาตรฐานความงาม หรือ Beauty Standard มักจะได้รับความเชื่อมั่นจากคุณครูว่าเป็นเด็กฉลาด, มีความสามารถ’ และนิสัยดี มากกว่าเด็กคนอื่น และมีแนวโน้มที่จะถูกกลั่นแกล้ง (Bullying) น้อยลงด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินเด็กๆ จากรูปร่างหน้าตาภายนอก ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและความคิดในระยะยาวอีกหลายประการ ทั้งกับเด็กหน้าตาน่ารักตามมาตรฐานสังคม และเด็กๆ ที่ไม่ถูกยอมรับ
Beauty Privilege ส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างไร
1. เด็กจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เมื่อไม่ถูกคนอื่นชื่นชม
เด็กที่น่ารักหรือรูปร่างหน้าตาดี มักจะได้รับการยอมรับ เป็นที่รัก และได้รับคำชมมากกว่าคนอื่น จึงเคยชินกับการเป็นที่สนใจหรือเป็นคนสำคัญของคนรอบข้าง กลายเป็นความคาดหวังในตัวเองว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องได้รับคำชมหรือความสนใจจากคนอื่นเสมอ แต่หากไม่เป็นอย่างที่คิด เช่น ไม่ได้รับคำชม หรือไม่ได้เป็นคนสำคัญในสถานการณ์นั้นๆ ก็จะรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ และพยายามทำตามความต้องการของคนอื่น เพราะอยากเป็นที่รักและได้รับคำชมจากคนอื่นต่อไป
2. เด็กจะกลัวความผิดพลาด
เด็กที่ได้รับสิทธิพิเศษจากความน่ารักหรือรูปร่างหน้าตาดี มักจะถูกตั้งมาตรฐาน หรือถูกตีกรอบว่าจะต้องเป็นคนเก่ง เรียนดี มีความสามารถโดดเด่น และเป็นที่รักของคนรอบตัว จนกลายเป็นความกดดันและกลัวการทำผิดพลาด เพราะเมื่อทำผิดพลาดจะทำให้ทุกคนผิดหวัง และอาจไม่ได้รับความรักจากทุกคนเหมือนเดิมได้
3. เด็กจะรู้สึกแปลกแยกจากเพื่อนๆ
โดยธรรมชาติแล้วเด็กเล็กมักจะไม่ชอบและไม่อยากให้ตัวเองเป็นจุดเด่น หรือแปลกแยกจากเพื่อน การได้รับความสนใจจากคุณครูหรือคนรอบตัวมากเป็นพิเศษ จะทำให้เด็กรู้สึกแปลกแยก ถูกจับตามอง จนนำไปสู่การไม่เป็นตัวของตัวเอง อึดอัด และมีทัศนคติเกี่ยวกับการมองคนที่ภายนอกผิดเพี้ยนไปได้
ผลกระทบต่อเด็กที่ไม่ได้น่ารักตาม Beauty Standard
1. เด็กจะขาดความมั่นใจในตัวเอง
เด็กกลุ่มนี้มักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่เก่ง ไม่เป็นที่ยอมรับของคนอื่นซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูก เช่น จากเดิมที่เคยเป็นเด็กร่าเริง กล้าพูดกล้าคุย แต่เมื่อเข้าสังคมแล้วกลายเป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าสบตา และมักพูดจาดูถูกตัวเอง
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกเริ่มมีสัญญาณดังกล่าว ควรพูดคุยเปิดใจกับลูก และปรึกษากับคุณครูที่โรงเรียนเพื่อหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ
2. ถูกกลั่นแกล้ง
การกลั่นแกล้ง หรือการล้อเลียนกันในโรงเรียนยังคงเกิดขึ้นกับเด็กที่ลักษณะภายนอกไม่ตรงตามมาตรฐานความงามของสังคมเสมอ ซึ่งการถูกกลั่นแกล้งไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกรู้สึกหงุดหงิด รำคาญใจ ไม่อยากไปโรงเรียน แต่สิ่งนี้จะกลายเป็นปมในใจไปจนโตได้
ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยเผยว่า การที่เด็กคนหนึ่งถูกกลั่นแกล้งบ่อยๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้กลายเป็นเด็กเกเร ชอบกลั่นแกล้งคนอื่นด้วยเช่นกัน
3. รู้สึกว่าต้องพยายามมากกว่าเพื่อนบางคน
เด็กที่ไม่เคยได้รับโอกาสหรือสิทธิพิเศษจากความหน้าตาดี มักรู้สึกว่าตัวเองต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น เพื่อจะได้ผลลัพธ์อย่างที่ตัวเองต้องการ เช่น ต้องทำผลการเรียนให้ดีมากๆ และทำได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณครูหรือเพื่อนๆ เห็นความสำคัญของตัวเอง
แม้ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่ดีต่อการพัฒนาตัวเอง แต่นักวิจัยบอกว่า ความคิดเช่นนี้ไม่เป็นผลดีในระยะยาว เนื่องจากจะทำให้เด็กเกิดอคติต่อสังคม และมีโอกาสที่จะภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ได้เร็วกว่าคนอื่น
COMMENTS ARE OFF THIS POST