ผู้ใหญ่หลายคนอาจคิดว่า ภาวะผู้นำ ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเด็ก หรือค่อยไปเรียนรู้และฝึกฝนเมื่อโตพอที่จะเป็นผู้นำแล้วก็ยังได้
แต่ความจริงแล้ว ภาวะผู้นำ (Leadership) คือบุคลิกภาพและอุปนิสัยที่ทำให้คนคนหนึ่งได้รับความเชื่อใจและไว้วางใจจากคนรอบข้าง โดยมีคุณลักษณะที่สำคัญก็คือ มีความมุ่งมั่น มองโลกในแง่ดี มีความสามารถในการตัดสินใจ แสดงออก และสื่อสารได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญก็คือ ผู้นำต้องมีความฉลาดทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจคนอื่นอีกด้วย
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ให้เห็นภาพของว่าที่ผู้นำประเทศ ที่มีบุคลิกภาพและการแสดงออกที่น่าสนใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจและการพูดคุยกันในหัวข้อบุคลิกภาพ ความสามารถ และภาวะผู้นำมากขึ้น
ในฐานะพ่อแม่ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกชาย ย่อมสนใจและอยากฝึกฝนให้ลูกเป็นเด็กที่เติบโตมาพร้อมภาวะผู้นำ ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้นำประเทศอย่างเดียว แต่คุณสมบัติของผู้นำที่ดียังสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันและการเติบโตของลูกได้อีกด้วย
แต่จะสอน ฝึก หรือปลูกฝังการมีภาวะผู้นำให้กับลูกได้อย่างไรนั้น เรามี 5 เทคนิคดีๆ มาบอกค่ะ
1. เปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกและตัดสินใจเรื่องสำคัญ
หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการเป็นผู้นำที่ดีคือการกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่มีใครกล้าตัดสินใจ ดังนั้น การฝึกให้ลูกได้เลือกหรือตัดสินใจตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย เช่น การแต่งกาย รสนิยม ไปจนถึงเรื่องสำคัญในชีวิต จึงเป็นหนึ่งในวิธีปลูกฝังภาวะผู้นำให้กับลูกได้เป็นอย่างดี
2. สนับสนุนให้ลูกเล่นกีฬา
การเล่นกีฬา นอกจากประโยชน์ทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์แล้ว กีฬายังช่วยฝึกให้ลูกรู้จักการเข้าสังคม การทำงานเป็นทีม การยอมรับและเคารพกฎกติกาของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเล่นกีฬาในรูปแบบทีม เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ที่สอนให้ลูกเห็นความสำคัญของการให้เกียรติเพื่อนร่วมทีม ไว้วางใจและเคารพการตัดสินใจของเพื่อน รวมถึงยังต้องฝึกการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเพื่อเป้าหมายร่วมกันคือชัยชนะของทีม
3. ฝึกให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตนเอง
ผู้นำที่ดี ไม่ได้ต้องการแค่ความฉลาดทางสติปัญญา เพื่อแก้ไขปัญหาเท่านั้น แต่ความฉลาดทางอารมณ์จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าลูกจะสามารถรับมือกับปัญหา และยอมรับผลของการตัดสินใจของตัวเองได้แค่ไหนวิธีฝึกให้ลูกรู้จักอารมณ์ของตัวเอง เริ่มได้ด้วยการฝึกให้ลูกมีเวลาอยู่กับตัวเองเพื่อทบทวนและรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง เช่น กำลังไม่พอใจ กำลังผิดหวัง เพื่อหาทางรับมือกับอารมณ์และจิตใจของตัวเองก่อนที่จะแก้ปัญหาหรือตัดสินใจอะไรต่อไป
นอกจากนี้ การที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะช่วยให้ลูกมีความคิด และทัศนคติที่ดี เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป
4. จัดทริปครอบครัวอย่างน้อยปีละครั้ง
จากการศึกษาของ New Mexico State University พบว่า คุณพ่อคุณแม่ที่ใช้เวลาในการทำกิจกรรมนอกบ้านกับลูกๆ จะมีสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่แน่นแฟ้นมากกว่าคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่แต่ในบ้าน
ทริปครอบครัว ไม่ได้มีประโยชน์แค่เป็นความสนุกสนานและการพักผ่อนของคนในครอบครัวเท่านั้น แต่การเปิดโอกาสให้ลูกได้เดินทาง พบเจอสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ผู้คนที่หลากหลาย และสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ จะช่วยให้ลูกเรียนรู้โลกและผู้คนในมุมที่หลากหลาย เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง และให้ความช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งมีประโยชน์ต่อการฝึกภาวะผู้นำได้เป็นอย่างดี
5. แวดล้อมด้วยแบบอย่างที่ดี
อยากให้ลูกเป็นผู้นำที่ดี ก็ควรมีแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เรียนรู้ โดยแบบอย่างที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนใดคนหนึ่ง หรือการสอนให้ลูกใช้ชีวิตด้วยการลอกเลียนใครคนใดคนหนึ่ง เพราะทุกคนล้วนมีข้อบกพร่องของตนเอง แต่การที่ให้ลูกได้ถูกห้อมล้อมด้วยบุคคลที่มีความเป็นผู้นำ จะช่วยให้ลูกได้เห็นและเรียนรู้ทักษะที่ดีจากคนอื่น และซึมซับจนเกิดเป็นการมีภาวะผู้นำในรูปแบบของตัวเองได้
ต้นแบบที่ดีที่สุดสำหรับลูกก็คือคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นให้ลูกมีภาวะผู้นำ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรแสดงถึงการเป็นผู้นำที่ดีให้ลูกเห็น ผ่านการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การรับฟังความคิดเห็นคนอื่น การให้อภัย กล้าคิดกล้าตัดสินใจ หรือแม้แต่ทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ภาวะผู้นำจากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนแรกยังไงล่ะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST