ธรรมชาติของเด็ก คือช่วงวัยแห่งการเติบโต เรียนรู้ และพัฒนาร่างกายตัวเองให้มีศักยภาพในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต เด็กๆ จึงชอบการวิ่งเล่นซุกซน ขยับตัว และเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา
แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้วิถีชีวิตของเราต้องมีข้อจำกัดมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่นั่งทำงานอยู่ในบ้าน ส่วนลูกก็ต้องนั่งประจำการอยู่หน้าจอเพื่อเรียนหนังสือ การออกจากบ้านน้อยลง อาจทำให้กิจกรรมที่เคยทำนอกบ้าน และการออกกำลังกายลดน้อยลงไปด้วย
มีงานวิจัยเกี่ยวกับความสำคัญของการออกกำลังกายกับการเรียน ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และแอฟริกาใต้ ทั้งหมด 14 ชิ้น ซึ่งทำการวิจัยกับเด็กอายุ 6-18 ปี จำนวนตั้งแต่ 50-12,000 คน ระบุว่าเด็กที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้มีผลการเรียนที่ดีขึ้น
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากคุณพ่อคุณแม่จะพบว่าการเรียนออนไลน์ อาจทำให้ผลการเรียนของลูกแย่ลง แต่พอนึกอยากชวนให้ลูกออกกำลังกาย เด็กๆ ก็ย่อมอยากออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ไปกระโดดโลดเต้นในที่กว้างขวางและอากาศดีๆ ไม่อย่างนั้นก็นั่งๆ นอนๆ ตากแอร์อยู่ในบ้านยังดีเสียกว่า
แต่เพื่อไม่ให้ลูกกลายเป็นเด็กที่เหี่ยวเฉาเพราะขาดการออกกำลังกาย เราลองมารวบรวมวิธีชวนลูกให้ลุกขึ้นมาขยับตัวและเคลื่อนไหวร่างกายกันบ้างดีกว่าค่ะ
1. ใช้เกมเป็นแรงกระตุ้นให้ลูกได้ออกกำลังกาย
ลองเริ่มต้นจากการหาเกมสนุกๆ ทำด้วยกันที่บ้าน ให้คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมในการขยับร่างกายไปกับลูกด้วย เช่น วิ่งไล่จับ แปะแข็ง แชร์บอล กระต่ายขาเดียว ฯลฯ
การเริ่มต้นเช่นนี้จะทำให้ลูกสนุกกับการเล่นโดยที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังออกกำลังกายอยู่คนเดียว แต่เป็นการได้เล่นสนุกกับคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย
2. ชวนลูกเล่นกีฬาที่ชอบ
ถ้าคุณพ่อคุณแม่พยายามชวนลูกออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่ลูกไม่ชอบ อาจทำให้ลูกยิ่งเบื่อและต่อต้านการออกกำลังกายได้ เช่น ลูกอาจไม่ชอบกีฬาที่ต้องแข่งขันหรือไม่ชอบกีฬาที่ต้องเล่นกลางแจ้ง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองและเลือกเล่นในสิ่งที่ตัวเองชอบ
3. กิจวัตรประจำวันก็ช่วยให้ลูกขยับตัวมากขึ้นได้
หลายครอบครัวอาจจะไม่มีเวลาหรือไม่มีพื้นที่กว้างๆ ให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกาย แต่กิจวัตรประจำวันก็สามารถทำให้ลูกออกกำลังกายได้ เช่น ชวนลูกเดินขึ้นลงบันได ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน หรือให้ลูกพาสุนัขเดินเล่น ก็ถือเป็นการออกกำลังกายได้โดยที่ลูกไม่รู้สึกว่าโดนบังคับให้ออกกำลังกายมากเกินไป
4. เพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายในครอบครัว
สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันทำให้หลายสถานที่จำเป็นต้องปิดชั่วคราวไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือสวนสาธารณะ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรามาปรับให้พื้นที่บ้านกลายเป็นสถานที่ออกกำลังกายไปพร้อมกับลูก เช่น เปลี่ยนพื้นที่หน้าโทรทัศน์ให้เป็นลานโยคะ เปลี่ยนสนามหญ้าหน้าบ้านให้เป็นสนามฟุตบอลขนาดเล็ก หรือกางสระน้ำเป่าลมไว้บริเวณพื้นที่จอดรถ ให้ลูกรู้สึกว่าการไม่ได้ออกจากบ้านไม่ใช่อุปสรรคของเล่นสนุกและการออกกำลังกาย
COMMENTS ARE OFF THIS POST