คุณพ่อคุณแม่หลายคนน่าจะเคยคิดและกังวลใจว่า ถ้าไม่มีคุณพ่อคุณแม่แล้ว ลูกของเราจะสามารถเติบโตและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อไปได้หรือเปล่า
เพราะพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเติบโตและดูแลตัวเองได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก นั่นทำให้คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับ ทักษะชีวิตที่ควรสอนลูก ให้เรียนรู้เป็นทักษะติดตัวตั้งแต่เนิ่นๆ
ยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะชีวิตที่ควรสอนลูก จึงต้องปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมอยู่เสมอ เราจึงคัดสรร 5 ทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับการเติบโตในโลกปัจจุบัน มาให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมความพร้อมให้ลูกมีทักษะในการดำรงชีวิตติดตัวต่อไป
1. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill)
ทักษะการสื่อสาร เป็นสารตั้งต้นที่ช่วยให้ลูกสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดี ช่วยให้แสดงความรู้สึก ความต้องการ และการมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารของลูกได้ด้วยการสอนให้ลูกรู้จักคำศัพท์ ผ่านการอ่านนิทาน ฟังเพลง พูดคุย หรือการใช้ภาษากายช่วยในการสื่อสาร ลองให้ลูกพูดคุยและเล่าเรื่องที่พบเจอในแต่ละวัน หรืออธิบายความรู้สึกของตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยรับฟังและให้คำแนะนำเพิ่มเติมเสมอ
2. ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking Skill)
Critical Thinking หมายถึง การคิดพิจารณาโดยยึดเหตุผลและข้อมูลเป็นหลัก เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง หากคุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูกเข้าใจในกระบวนการคิดวิเคราะห์ตั้งแต่เด็ก ลูกจะเป็นคนที่เปิดกว้างและไม่ถูกชี้นำได้ง่ายๆ
ทักษะการคิดวิเคราะห์ถือเป็นหนึ่งในทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กๆ ในศตวรรษที่ 21 ที่เด็กๆ จากการจัดอันดับของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) อีกด้วย
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังทักษะนี้ให้ลูกได้ด้วยการฝึกให้ลูกตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัว หรือเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณพ่อคุณแม่หรือคนอื่นๆ เพื่อให้ลูกเป็นเด็กที่รู้จักการคิดหาเหตุผลมาอธิบายความคิดเห็นของตัวเอง และยอมรับฟังเหตุผลของคนอื่นเช่นกัน
3. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving Skill)
ไม่มึใครเติบโตขึ้นได้โดยไม่ต้องพบเจอปัญหา ทักษะการแก้ปัญหาจึงเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกและกระตุ้นให้ลูกพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกด้วยการคอยอยู่เคียงข้าง ให้กำลังใจ และ สนับสนุนการตัดสินใจของลูกเสมอ
4. ทักษะการบริหารเวลา (Time Management Skill)
เด็กๆ ยุคใหม่มักจะมีกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถต่างๆ ให้ทำมากมาย แต่ลูกอาจจะเด็กเกินไปที่จะรู้จักบริหารเวลาด้วยตัวเอง
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า เด็กๆ สามารถเรียนรู้และเข้าใจทักษะการบริหารเวลาได้ตั้งแต่ช่วงวัย3-5 ขวบ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มทักษะนี้ให้กับลูกได้ ด้วยการสอนให้ลูกรู้จักจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆ จัดทำตารางเวลากิจวัตรประจำวัน และรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองเพื่อเติบโตเป็นคนที่รู้จักบริหารเวลาอย่างมีคุณภาพต่อไป
5. ทักษะการตระหนักรู้ทางสังคมและวัฒนธรรม (Social and Cultural Awareness)
โลกในศตวรรษที่ 21 ถือเป็นโลกไร้พรมแดน ข้อมูล ความรู้ และวัฒนธรรมต่างๆ ในโลกสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดายคุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนลูกให้เรียนรู้และเปิดใจรับความแตกต่างและหลากหลายในโลก และสังคมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สังคม เชื้อชาติ ศาสนา หรือวัฒนธรรม รวมทั้งสอนให้ลูกเคารพและยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย ด้วยความเข้าอกเข้าใจ และให้เกียรติผู้อื่นเสมอ
COMMENTS ARE OFF THIS POST