การตั้งครรภ์ถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิง ทั้งสถานะการเป็นคุณแม่ ความรับผิดชอบที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ ระดับฮอร์โมนที่ไม่ปกติ หรือกระทั่งปัญหาผิวที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลต่อจิตใจของคุณแม่ไม่น้อยนอกจากการเลือกกินอาหารเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้นแล้ว การเลือก สกินแคร์สำหรับคุณแม่ ก็เป็นเรื่องใหม่ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น

ทำไมท้องแล้วสิวขึ้น หน้าโทรมหมองคล้ำ?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเผยว่ากว่าร้อยละ 50 ของคนท้องมักจะประสบปัญหาผิวหน้าโทรม หมองคล้ำ สิวเห่อ และผิวแห้งแตกลาย เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และช่วยปรับเปลี่ยนสรีระร่างกายของคุณแม่ให้เหมาะสมต่อการอุ้มท้อง มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก จึงส่งผลต่อความสมดุลของผิวคุณแม่ด้วย

การเลือก สกินแคร์สำหรับคุณแม่ ช่วงตั้งครรภ์และปลอดภัยต่อลูกน้อยในท้อง จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะส่วนผสมบางอย่างในสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการทางสมอง และอาจรุนแรงถึงขั้นพิการได้ เราจึงจะพาคุณแม่ทำความรู้จัก ส่วนผสมในสกินแคร์ที่คนท้องควรเลี่ยง ให้ห่าง หากไม่อยากทำร้ายลูกทางอ้อม

1. Vitamin A

สารกลุ่มวิตามินเอหรือเรตินอล (Retinol) ทั้ง Retinyl Palmitate, Retinol, Retinaldehyde, Adapalene, Tretinoin, Isotretinoin และ Tazarotene มักพบในสกินแคร์รักษาสิวหรือต้านริ้วรอย ซึ่งสารเหล่าส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์เป็นอย่างมาก อาจทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิด และอาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้เกิดการแท้งลูกได้

2. Salicylic Acid (BHA)

เป็นส่วนผสมที่มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวและช่วยรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ง่ายเช่นกัน นอกจากจะทำให้คุณแม่ผิวแห้งขึ้นแล้ว สารเคมีชนิดนี้ยังสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย

ทางการแพทย์แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ใช้ได้ในปริมาณเข้มข้นไม่เกิน 2% แต่ทางที่ดีแนะนำให้คุณแม่หลีกเลี่ยงการใช้ไปก่อนจะดีที่สุดค่ะ

3. Benzoyl Peroxide (BP)

เป็นตัวยาที่ใช้ทาก่อนล้างหน้าเพื่อละลายหัวสิว หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Benzac นั่นเอง ซึ่งเป็นสารที่ค่อนข้างออกฤทธิ์แรง อาจทำให้คุณแม่ท้องอ่อนที่ผิวบอบบางมากอยู่แล้ว ยิ่งเกิดอาการแสบคัน ผิวไวต่อแสง ผิวแห้งแตกได้ แม้ตัวยานี้จะไม่ได้ส่งผลเสียต่อทารกในครั้งนี้ แต่ก็แนะนำให้คุณแม่หลีกเลี่ยงการใช้ไปก่อน

4. Essential Oil

น้ำมันหอมระเหย (Essential oil) เป็นส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติก็จริง แต่น้ำมันบางชนิดก็ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น Clary Sage และ Jasmin oil ทำให้เกิดภาวะท้องแข็ง หรือมดลูกหดตัว จนเกิดอาการปวดท้องขั้นรุนแรงได้ และ Rosemary oil กระตุ้นให้ค่าความดันสูงกว่าปกติ

5. Parabens

เป็นสารกันเสียในเครื่องสำอางที่คุณแม่ควรระวังและหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะสามารถพบได้ง่ายในผลิตภัณฑ์ทั่วไป เช่น ครีมบำรุงผิว แชมพู ครีมนวดผม ซึ่งสารเคมีชนิดนี้สามารถทำให้ทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิดได้

6. Fragrance

น้ำหอม จัดเป็นเครื่องสำอางอีกชนิดหนึ่งที่คุณแม่ควรเลี้ยงให้ห่าง เพราะสารเคมีในน้ำหอมส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของลูก และพิษร้ายของน้ำหอมยังสามารถปรับชีพจรและกระแสเลือดในสมอง ทำให้คุณแม่เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำหอม และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมตลอดช่วงตั้งครรภ์ค่ะ

7. Chemical Sunscreen

โดยส่วนมากในครีมกันแดดประเภท Chemical Sunscreen มักจะมีส่วนผสมของ Oxybenzone ซึ่งสารเคมีตัวนี้ขัดขวางการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองในระยะยาวของทารก อาจนำไปสู่การเป็นโรคสมาธิสั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นสารเคมีชนิดนี้ยังรบกวนการทำงานของต่อมน้ำนม ทำให้น้ำนมไหลติดขัดได้

จึงแนะนำให้คุณแม่เลือกใช้ครีมกันแดดประเภท Physical Sunscreen หรือ Mineral Sunscreen ที่ปราศจากสาร Oxybenzone, Octyl methoxycinnamaye, Avobenzone, Homosalate, Phenoxyethanol, Phthalates, PEGs, Sulfate, Clindamycin และ Hydroquinone เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์

อ้างอิง
Healthline
WebMD
Dr.KinsellaSkin