เมื่อลูกอายุได้ 3 – 4 ปี ก็จะเริ่มพูดและสื่อสารเป็นประโยคยาวๆ และชัดถ้อยชัดคำ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนต้องประสบปัญหา ลูกพูดไม่ชัด จับใจความได้ยากหรือลูกพูดแล้วคนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง
สมาคมโสตสัมผัสวิทยาและการแก้ไขการพูดแห่งประเทศไทย ได้แบ่งประเภทปัญหาด้านการพูดไว้ 9 ชนิด ดังนี้
• พูดไม่ชัด
• พูดเสียงแหบ
• พูดติดอ่าง
• พัฒนาการทางภาษาและการพูดล่าช้ากว่าวัย (Delayed Speech and Language Development) เช่น เด็กออทิสติก
• ปัญหาการพูดของผู้ที่มีความบกพร่องทางสมอง
• กลุ่มเด็กดาวน์ซินโดรม
• กลุ่มเด็กที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ
• กลุ่มเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยิน
• กลุ่มเด็กปากแหว่งเพดานโหว่
ถึงแม้ว่าการที่ ลูกพูดไม่ชัด จะไม่ใช่ปัญหาที่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของลูก แต่การพูดไม่ชัดในวัยอนุบาล ก็อาจส่งผลต่อการเข้าสังคมและบุคลิกภาพของลูกได้
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีแนวทางสำหรับรับมือและไม่ส่งเสริมหรือเพิ่มปัญหาที่ทำให้ลูกประหม่าและสูญเสียความมั่นใจ ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้
1. ไม่ดุหรือลงโทษลูก
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรดุ ต่อว่า หรือลงโทษลูก เพราะนอกจากจะทำให้ลูกรู้สึกกดดันแล้ว ยังทำให้ลูกเสียความมั่นใจ กลายเป็นเด็กไม่กล้าพูดและไม่อยากสื่อสารกับคนอื่น
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเมื่อลูกไม่สามารถพูดหรือออกเสียงให้ชัดเจนได้ ก็คือแนะนำวิธีการพูดให้ลูกหรือสอนการออกเสียงที่ถูกต้อง เช่น พูดเป็นตัวอย่างแล้วลองให้ลูกออกเสียงตามอีกครั้ง
2. ให้ลูกเรียนรู้การพูดและสื่อสารกับคนในชีวิตจริงมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่อาจเคยเข้าใจว่าการเปิดการ์ตูนให้ลูกดูบ่อยๆ จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านภาษาให้กับลูกได้ แต่การปล่อยให้ลูกเรียนรู้ภาษาพูดจากการ์ตูนหรือคลิปวิดีโอเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ลูกจดจำคำศัพท์และประโยคที่เคยได้ยินมาใช้โดยไม่เข้าใจความหมาย
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรการหากิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการของลูก เช่น เล่นเกมทายคำ ร้องเพลง เล่นบทบาทสมมติ เพื่อฝึกให้ลูกพูดและสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมที่จะชมเชยเพื่อเป็นกำลังใจและเสริมความมั่นใจกับลูกด้วยนะคะ
3. ไม่ล้อเลียนให้ลูกเสียความมั่นใจ
เวลาที่ผู้ใหญ่เห็นเด็กพูดไม่ชัด มักจะหัวเราะชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นเพราะรู้สึกเป็นเรื่องน่ารักน่าเอ็นดู หรือน่าขบขันในสายตาของผู้ใหญ่ แต่การทำเช่นนี้อาจจะทำให้เด็กรู้สึกสับสน คิดว่าเมื่อพูดไม่ชัดแล้วจะทำให้ทุกคนพอใจ หรือพูดไม่ชัดแล้วทำให้ถูกล้อเลียนได้
นอกจากนั้น หากคุณพ่อคุณแม่หัวเราะและล้อเลียนลูก ยังทำให้ลูกไม่ได้เรียนรู้การพูดที่ถูกต้อง และในขณะเดียวกันการล้อเลียนหรือแกล้งพูดไม่ชัดเหมือนลูก อาจส่งผลให้ลูกรู้สึกอับอาย ขาดความมั่นใจในตัวเอง เกิดปัญหาเรื่องบุคลิกภาพ ส่งผลต่อการเข้าสังคมต่อไปได้
4. พาลูกไปแก้ไขการพูด
นายแพทย์สาธิต สันตดุสิต ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ได้ให้คำแนะนำว่า โดยปกติเด็กวัย 2 – 4 ปี จะยังไม่สามารถพูดหรือออกเสียงได้ชัดเจนทุกคำ แต่ถ้าหากเด็ก 4 อายุ 4 ปีขึ้นไปยังพูดไม่ชัด หรือมีปัญหากับการออกเสียงพยัญชนะ ม, น, ห, อ, ค และ ย นั่นเป็นสัญญาณว่า คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกเข้ารับการรักษากับนักแก้ไขการพูดได้
สุดท้าย หากคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการพูดไม่ชัดของลูก ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความมั่นใจของลูก โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ นั่นอาจแปลว่าลูกกำลังเกิดปัญหาด้านการพูด และควรให้ลูกได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้ฝึกพูดอย่างถูกวิธีต่อไปนะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST