ปัจจุบันหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต เป็นสิ่งที่ใกล้ชิดและอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. เสี่ยงเป็นออทิสติกเทียม

ออทิสติกเทียม มีอาการคล้ายกับโรคออทิสติก (Autistic Disorder) คือเด็กจะมีพัฒนาการทั้งทางภาษาและสังคมช้ากว่าปกติ แต่มักมีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นสำคัญ ปล่อยให้ลูกอยู่กับหน้าจอนานๆ เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่จะทำให้ลูกอยู่นิ่ง และสงบลงได้ แต่ก็ทำให้เด็กได้รับการสื่อสารทางเดียว (one way communication) ไม่มีโอกาสได้ฝึกพูดตอบโต้กับคนอื่น ส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางด้านภาษาและสังคมได้ง่าย

2. เสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้น

ภาพและเสียงที่ลูกได้เห็นผ่านหน้าจอ เป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกเสียสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับการดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้นของลูกได้

3. มีปัญหาด้านสายตาและปลายประสาทอักเสบ

เมื่อลูกใช้สายตาเพ่งมองหน้าจอเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ปัญหาทางสายตา เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นโรคตา เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง รวมถึงการปล่อยให้ลูกใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป ทำให้ลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังอาจทำให้ลูกมีอาการปลายประสาทอักเสบได้ (ข่าวคุณพ่อฝากเตือนภัย ลูกชายติดมือถือ จนพักผ่อนน้อย ปลายประสาทอักเสบ)

4. เสี่ยงเป็นโรคอ้วน

นอกจากผลเสียต่อสุขภาพและสมองของลูกแล้ว ยังมีโรคที่แฝงตัวมาทางอ้อมก็คือ โรคอ้วนในเด็ก เพราะเด็กที่ติดโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่มีหน้าจอทุกประเภทมักจะใช้เวลาไปกับการนั่งเล่นหรือนั่งมองหน้าจอ ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติของเด็กโดยสิ้นเชิง

อ้างอิง
thaihealth
dmh
parenting.firstcry