READING

5 อันดับคอนเทนต์ยอดนิยม หมวด ‘สุขภาพกายและใจลูก’ ป...

5 อันดับคอนเทนต์ยอดนิยม หมวด ‘สุขภาพกายและใจลูก’ ประจำปี 2020

สุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บของลูก ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจก็เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่เสมอ

การหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและโรคภัยของเด็กๆ ตลอดช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ทำให้พวกเราได้รู้ว่า นอกจากสุขภาพร่างกายของลูกน้อยแล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากเป็นกังวลก็คือปัญหาหรืออาการทางจิตเวชที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้ หากคุณพ่อคุณแม่ไม่สังเกตพฤติกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงของลูกให้ดี ก็อาจจะทำให้ลูกมีโอกาสเข้าถึงการรักษาไม่ทันท่วงที

วันนี้เรารวบรวม คอนเทนต์ในหมวด สุขภาพกายและใจลูก ตลอดปี 2020 ที่ได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่สูงสุด 5 อันดับ กลับมาให้อ่านกันแบบรวดเดียวเลยค่ะ

อันดับที่ 5
4 เคล็ด (ไม่) ลับ พัฒนาสุขภาพจิตของลูกให้แข็งแรง

TopGoodHealth_1

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของลูก อยากให้ลูกมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง และไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ด้วยการเลี้ยงดูและบำรุงสุขภาพร่างกายลูกอย่างดี ด้วยการพยายามให้ลูกได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย กีฬา และได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามกำหนดนัดหมายของแพทย์

แต่นอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว สุขภาพจิตก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เพราะสภาพสังคมปัจจุบัน ทำให้เด็กมีโอกาสที่จะตกอยู่ในสภาวะกดดัน และเครียดได้ง่าย โรคทางจิตเวชจึงไม่ได้เกิดขึ้นได้กับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เด็กๆ เองก็มีแนวโน้มและความเสี่ยงต่อโรคทางจิตเวช เช่น โรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของลูกต่อไปได้

ดังนั้น นอกจากสุขภาพร่างกายของลูก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและดูแลให้แข็งแรงแล้ว สุขภาพจิตก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ลูก ด้วยวิธีดังต่อไปนี้…

 

—อ่านบทความฉบับเต็มที่: https://bit.ly/3mN4lGr

อันดับที่ 4
อาการแบบนี้ลูกเป็นแค่หวัด หรือติดเชื้อไวรัส RSV กันแน่นะ!?

TopGoodHealth_2

เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวที่สภาพอากาศแปรปรวนสุดๆ เดี๋ยวฝนตกหนัก เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวอากาศเย็น ผู้ใหญ่อย่างเรายังเริ่มเจ็บไข้ได้ป่วยกันได้  แล้วเจ้าตัวเล็กที่ยังมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเท่าไรนัก เจอสภาพอากาศแบบนี้ก็ยากที่จะต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้

หนึ่งในโรคที่เด็กๆ เป็นกันมากในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงและแปรปรวน นอกจากไข้หวัดแล้วก็คือโรคเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาการเบื้องต้นของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV จะคล้ายกับอาการของโรคไข้หวัดทั่วไป แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ในเด็กเล็กอาจจะมีอาการทรุดหนัก และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

—อ่านบทความฉบับเต็มที่: https://bit.ly/2HbFuf0

อันดับที่ 3
‘โรคไตในเด็ก’ น่ากลัวและอันตรายแต่สามารถป้องกันได้เริ่มจากการกินอาหาร

TopGoodHealth_3

‘โรคไต’ เป็นโรคที่หลายคนคิดว่าจะพบได้แต่ในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว โรคไตสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุของคนเรา ไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็กหรือทารก

ปัญหาโรคไตในเด็กเล็กเกิดจากการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น กินอาหารที่มีรสเค็ม รสหวาน ของทอด หรืออาหารปรุงรสจัดเกินไป ส่งผลทำให้เกิดภาวะอ้วน ความดันโลหิตสูง และอาจเกิดภาวะไตเสื่อมได้

แต่ถึงอย่างนั้น โรคไตก็จัดว่าเป็นโรคที่สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้ด้วยการปรับเปลี่ยนและดูแลเรื่องคุณภาพอาหารอยู่เสมอ

—อ่านบทความฉบับเต็มที่: https://bit.ly/3ngsqoI

อันดับที่ 2
5 วิธีสังเกตว่าลูกกำลังเผชิญกับโรคบกพร่องทางการอ่าน (Dyslexia) อยู่หรือเปล่า?

TopGoodHealth_4

โรคบกพร่องทางการอ่าน หรือ Dyslexia จัดเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติเฉพาะด้านการเรียนรู้ (Learning Disorder)

ทำให้เด็กมีปัญหากับการอ่าน เขียน สะกดคำติดขัด ไม่สามารถเรียนรู้การผสมคำได้  ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ไม่เท่ากับคนอื่น เด็กที่มีอาการของโรค Dyslexia อาจทำให้คุณครูและผู้ปกครองเข้าใจว่า เด็กมีปัญหาเพราะความไม่สนใจหรือไม่ตั้งใจที่จะเรียนรู้

โรค Dyslexia อาจเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม การเลี้ยงดู การได้รับยา แอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดขณะคุณแม่ตั้งครรภ์ รวมไปถึงการคลอดก่อนกำหนดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กเป็นโรคดังกล่าวได้

ถึงแม้โรค Dyslexia นั้นจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถแก้ไขและพัฒนาได้ด้วยการให้เด็กได้ฝึกฝนการอ่านเขียน และพูดอย่างสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญคือ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกได้เร็ว และพาไปเข้ารับการรักษาได้เร็วเท่าไหร่ ลูกก็จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้เร็วเท่านั้น

มาถึงตรงนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกกำลังมีอาการของโรคบกพร่องทางการอ่านหรือไม่ เรามีข้อสังเกตดังนี้ค่ะ

—อ่านบทความฉบับเต็มที่: http://bit.ly/3bL2EUo

อันดับที่ 1
5 วิธีช่วยให้ลูกจัดการกับความเครียด (Stress Management) ด้วยตัวเอง

TopGoodHealth_5

ความเครียด (Stress) คือภาวะอารมณ์ หรือความรู้สึกที่ถูกเปลี่ยนแปลงจากปัญหาต่างๆ หรือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ จนทำให้จิตใจอ่อนแอส่งผลไปถึงด้านร่างกายในทางลบ

ความเครียดสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ใหญ่ แต่เด็กๆ ก็สามารถมีความเครียดซึ่งอาจเกิดจากสภาพแวดล้อม การปรับตัว หรือพฤติกรรมการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ ก็เป็นที่มาของความเครียดที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยได้

คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่า ความเครียดที่เกิดขึ้นในวัยเด็กสามารถส่งผลกระทบต่อเนื่อง นำไปสู่การเกิดปัญหาด้านจิตใจได้ ทำให้เด็กกลายเป็นคนที่วิตกกังวล มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือร้ายแรงสุดอาจสั่งสมจนนำไปสู่การมีปัญหาโรคทางจิตเวช

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียด (Stress Management) ทั้งของตัวเอง และสอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดด้วยตัวเองได้

—อ่านบทความฉบับเต็มที่: http://bit.ly/3aaQ9A0


Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST