นพ.หลิน จือเวย กุมารแพทย์ได้เล่าเรื่องราวผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า เด็กหญิงชาวไต้หวันอายุ 4 ขวบ มีไข้สูงนานหลายวัน ไอ มีเสมหะ น้ำมูกไหล และเจ็บคอเล็กน้อย ต่อมาในวันที่สามพ่อแม่ได้พบว่าลูกมีอาการทุเลาลง แต่พอวันที่ห้า อาการป่วยกลับหนักขึ้นอีกครั้ง คุณพ่อคุณแม่จึงพาลูกไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ซึ่งผลการเอกซเรย์แสดงให้เห็นถึงปอดบวมและหลักฐานทางจุลชีววิทยา คือ ฮิวแมนเมตานิวโมไวรัส (Human Interstitial Pneumonia Virus : Hmpv)
นพ.หลิน จือเวย ระบุว่า แม้ว่า ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชเอ็มพีวี ผู้ป่วยบางรายมีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน บางรายไข้ไม่ทุเลาลงจนวันที่ 7 ก็มองข้ามลักษณะที่ก่อให้เกิดโรคปอดบวมไม่ได้
อีกทั้ง นพ.หลิน จือเวย เตือนว่าผู้ที่เป็นโรคหอบหืด (Asthma) โรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ และโรคอื่นๆ ควรให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้ป่วยที่มีไข้และปอดบวมจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้
ไวรัสเอชเอ็มพีวี เป็นไวรัสชนิดใหม่ที่ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ที่ค้นพบโดยนักวิชาการชาวดัตช์ในปี 2544 มักเกิดข้นใน ช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เด็กเล็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง เป็นต้น สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงและอาจถึงขั้นหายใจล้มเหลวได้
อาการของโรค มีตั้งแต่คล้ายไข้หวัด อาการไอและคัดจมูกเป็นอาการทางคลินิกที่พบได้บ่อยที่สุด จนขั้นรุนแรงถึงหลอดลมอักเสบชนิดที่เรียกว่า Bronchiolitis ปอดอักเสบ การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการของผู้ป่วย เช่น ดูดเสมหะ พ่นยา เคาะปอด ให้สารน้ำทางหลอดเลือด และไม่มีการใช้ยาต้านไวรัสพิเศษหรืออิมมูโนโกลบูลิน
การป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชเอ็มพีวี จึงใช้หลักการเดียวกับการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ ได้แก่ ล้างมือให้สะอาด ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย รวมถึงสวมหน้ากากอนามัย
COMMENTS ARE OFF THIS POST