การวิจัยพบว่าทารกที่เกิดในช่องคลอดจะรับแบคทีเรียเริ่มต้นจากแม่ของพวกเขา แต่ในขณะที่เด็กทารกคลอดด้วยวิธีการผ่าจะได้รับแบคทีเรียที่มาจากสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลแทน
นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการศึกษาแบคทีเรียในทารกแรกเกิดกล่าวว่า จุลินทรีย์ในลำไส้นั้นมีอยู่นับล้าน และมีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน การสัมผัสกับแบคทีเรียที่ถูกต้องในวัยเด็กมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อภูมิต้านทานโรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืดภูมิแพ้ และเบาหวาน
นักวิจัยที่สถาบัน Wellcome Sanger มหาวิทยาลัย College London (UCL) และมหาวิทยาลัย Birmingham พบว่าทารกที่คลอดทางช่องคลอดจะมีเชื้อแบคทีเรียสุขภาพดีกว่าเด็กที่เกิดจากการผ่า ที่มักพบเจอแบคทีเรียที่เป็นอาจเป็นอันตรายจากโรงพยาบาลได้
อย่างไรก็ตามแบคทีเรียที่ได้รับต่างกันนั้นจะสามารถหายไปได้เองภายในหนึ่งปี โดยแบคทีเรียในลำไส้ของทารกนั้นยังไม่ชัดเจน และไม่ทราบถึงความแตกต่างตั้งแต่แรกว่าจะเกิดผลกระทบใด ๆ ในภายหลังหรือไม่
รองศาสตราจารย์คลินิกที่ UCL กล่าวว่า “ทารกปลอดเชื้อเมื่ออยู่ในครรภ์ และช่วงเวลาที่พวกเขาเกิดเป็นช่วงเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันมีแบคทีเรียจำนวนมาก ดังนั้นช่วงเวลาที่เกิดอาจเป็นช่วงเวลาแห่งการกำหนดระบบภูมิคุ้มกันในอนาคตได้”
“มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็กที่เกิดจากการผ่าคลอดมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะภูมิคุ้มกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่นโรคหอบหืด โรคลำไส้อักเสบ และอาการแพ้อื่น ๆ”
COMMENTS ARE OFF THIS POST