ศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนภาคเหนือ (NYDC) เรียกร้องขอให้ภาครัฐจัดหาสถานที่ให้เด็กได้ทำกิจกรรม แสดงศักยภาพของตัวเอง มากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาเด็ก

ตำรวจภูธรแม่ปิง จ.เชียงใหม่ จัดกำลังกระจายไปจุดเสี่ยงต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่กลุ่มวัยรุ่นมักใช้เป็นแหล่งรวมตัว ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นทั้งคนไทยและไทใหญ่ รวมกันบ่อยครั้ง

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าขณะนี้ได้วางแนวทางไว้ 3 แนวทางแก้ปัญหา

1. ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในการตรวจตรา ป้องกัน ปราบปราม และดำเนินการด้านกฎหมายกับผู้กระทำผิด

2. ฟื้นฟูให้โอกาสกับเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและเน้นระบบยุติธรรม ดูปัญหาและข้อเท็จจริงโดยไม่เลือกปฏิบัติ

3. ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ปี 2546 ให้โอกาสเยาวชนได้ฟื้นฟู ปรับพฤติกรรม ซึ่งผู้ปกครองต้องมีบทบาทสำคัญในการดูแลบุตรหลาน และหากเยาวชนก่อเหตุ

นายประมวล โกวิทชัยวิวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนภาคเหนือ ระบุว่าปัญหาเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่เกิดจากหน่วยงาน ยังขาดความเข้าใจเด็ก รวมถึงไม่มีสถานที่หรือกิจกรรมให้เด็กได้แสดงออกในความสามารถของตัวเอง ดังนั้นจะต้องมีกรรมการจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามาดูอย่างจริงจัง เพราะการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้

ล่าสุด พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตำรวจทุกสถานีตำรวจ จัดกำลังป้องกันการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่นและ ให้ชุดสืบสวนออกสังเกตุการณ์ ติดตามพฤติกรรม และเก็บข้อมูลประวัติของกลุ่มวัยรุ่นรวมทั้งผู้ปกครอง เพื่อง่ายต่อการติดตามตัวมาสอบสวนหากมีการก่อเหตุขึ้น โดยบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดรวมทั้งผู้ปกครองด้วย

อ้างอิง
thaipbs