คณะกรรมการด้านการศึกษาของเมืองคุมาโมโต ประเทศญี่ปุ่น กำลังกังวลว่า นักเรียนในระดับชั้นประถม และระดับมัธยมต้นเริ่มมีการเข้าเรียนในชั้นเรียนน้อยลง โดยนำข้อมูลทางสถิติของเด็กนักเรียนในช่วงวัยนี้มาเทียบกันระหว่างปี 2018 กับปี 2022 พบว่า มีนักเรียนที่ไม่มาเข้าเรียนในช่วงปี 2022 จำนวน 2,760 คน ซึ่งมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2018

คณะกรรมการจึงคิดว่าจะนำหุ่นยนต์มาแก้ปัญหาเด็กเข้าเรียนน้อย ด้วยการเอามาเข้าเรียนแทน และให้นักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียนสามารถควบคุมหุ่นยนต์จากระยะไกลได้

ลักษณะของหุ่นยนต์สูงประมาณ 1 เมตร ติดตั้งไมโครโฟน ลำโพง และกล้อง ซึ่งนักเรียนสามารถเข้าเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ในห้องได้ โดยการเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์ผ่านทางแล็ปท็อปที่บ้าน ซึ่งหุ่นยนต์จะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในห้อง แต่มันสามารถเดินไปมาทั่วโรงเรียน เข้าร่วมอีเวนต์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนได้ และยังสามารถสื่อสารกับคนอื่นๆ ได้ตามที่นักเรียนทางไกลต้องการ

อย่างไรก็ดีมีการคาดหวังว่า การเพิ่มหุ่นยนต์จะช่วยให้เด็กที่ขาดเรียนบ่อยได้เอาชนะความวิตกกังวล และมั่นใจจนกลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษาแบบปกติได้

คณะกรรมการจะไม่บังคับให้เด็กใช้หุ่นยนต์หากพวกเขาไม่ต้องการ และโครงการดังกล่าวเป็นเพียงโครงการขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองคุมาโมโตะที่มีประชากรราว 730,000 คนเท่านั้น แผนดังกล่าวจะมีการใช้หุ่นยนต์เพียง 2 ตัว และส่งไปยังโรงเรียนที่ทำเรื่องขอใช้งาน ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมประเมินผลหลังจากสิ้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม เพื่อประเมินว่าจะดำเนินการขยายโครงการหรือไม่

อ้างอิง
khaosod.co.th