เด็กผ่าคลอด จะอ่อนแอและต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษจริงหรือเปล่า นี่คือความกังวลที่คุณแม่หลายคนต้องเจอ เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกวิธีการคลอดให้ตัวเองและลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
การผ่าคลอดเป็นอีกทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ร่างกายไม่พร้อมหรือไม่ต้องการที่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ รวมถึงการคลอดของคุณแม่ที่อายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด โดยคุณแม่มักกังวลว่าการผ่าคลอด อาจทำให้ลูกขาดภูมิคุ้มกัน และสุขภาพไม่แข็งแรงเท่ากับลูกที่คลอดด้วยวิธีการตามธรรมชาติ
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยลักเซมเบิร์กกล่าวว่า เด็กที่คลอดโดยธรรมชาติจะได้รับแบคทีเรียที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันสำคัญจะผ่านจากช่องคลอดของแม่ไปสู่ลูก การผ่าคลอดจึงทำให้ลูกน้อยไม่ได้รับแบคทีเรียที่จำเป็นต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจทำให้ลูกป่วยง่ายและมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันได้ง่าย
แต่ปัจจุบัน การผ่าคลอด เป็นวิธีการคลอดที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าการคลอดธรรมชาติ และคุณพ่อคุณแม่สามารถทำความเข้าใจและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูกหลังคลอดได้ด้วยเทคนิคเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กผ่าคลอดที่เรารวบรวมมาฝาก ดังนี้
1. ให้ลูกกินนมแม่
ทารกควรได้รับนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก เพราะนมแม่เป็นแหล่งรวมสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อการกระตุ้นพัฒนาการ ส่งเสริมการทำงานของสมอง รวมถึงจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพหลายชนิดที่จะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้นกันมากขึ้น เช่น จุลินทรีย์ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ลดการติดเชื้อ ลดการอักเสบ ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ ป้องกันอาการท้องเสียเฉียบพลัน และอาการลำไส้แปรปรวน ซึ่งจุลินทรีย์ทั้งหมดนั้นมีอยู่ในน้ำนมแม่อย่างเต็มเปี่ยม
2. ระวังไม่ให้ลูกนอนเยอะเกินไป
คุณแม่อาจเข้าใจว่า ยิ่งทารกนอนหลับมากเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อการเติบโตของลูกมากเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว หากปล่อยให้ลูกในวัยทารกนอนมากเกินไป อาจทำให้ลูกตื่นมากินนมได้น้อย และได้รับสารอาหารจากน้ำนมแม่ที่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกันได้น้อยลง เมื่อได้รับภูมิคุ้มกันไม่เพียงพอ ลูกก็จะกลายเป็นเด็กที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงและป่วยง่าย ดังนั้นคุณแม่จึงควรหัดให้ลูกตื่นและเข้านอนเป็นเวลา อย่าปล่อยให้ลูกนอนนานหรือนอนเยอะจนไม่ได้ตื่นมากินนมแม่ตามเวลาที่สมควรนะคะ
3. พาลูกเล่นนอกบ้าน
การให้ลูกน้อยได้สัมผัสสิ่งแวดล้อม โดนแดด โดนลมนอกบ้านในเวลาที่สมควร จะทำให้ร่างกายลูกได้รับวิตามิน และจุลินทรีย์จากธรรมชาติที่จำเป็นต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของลูก
ดังนั้น คุณแม่ไม่ควรกังวลเรื่องความสะอาดหรือกลัวว่าให้ลูกออกไปโดนอากาศภายนอกแล้วจะได้รับเชื้อโรคมากเกินไป เพียงแค่คอยดูแลความสะอาดของเสื้อผ้า อาบน้ำ และล้างมือลูกบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารเป็นประจำก็พอค่ะ
4. ลดอาหารที่มีน้ำตาล
ผลไม้เป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ก็จริง แต่คุณแม่ไม่ควรไว้วางใจผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลมาก เพราะงานวิจัยส่วนใหญ่พบว่า หากร่างกายเด็กได้รับน้ำตาลมากจนเกินไป อาจขัดขวางการดูดซึมวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยป้องกันไข้หวัดได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรจำกัดปริมาณของหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลของลูกในแต่ละวันด้วยนะคะ
5. หลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะ
หลายครั้งที่พ่อแม่มักกังวลเมื่อลูกเจ็บป่วย และต้องการให้หมอจ่ายยาที่ทำให้ลูกหายจากอาการนั้นโดยเร็ว แต่พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการรักษาอาการป่วยของลูกด้วยยาปฏิชีวนะ แม้ว่ายาปฏิชีวนะจะช่วยในเรื่องการทำลายแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของอาการป่วย แต่ยานี้ก็ทำลายแบคทีเรียดีที่ทำหน้ากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของลูกไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ลูกกินยาในกลุ่มนี้ด้วยนะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST