READING

อยากให้ลูกมีเพื่อน : 4 วิธี สอนลูกให้เป็นเพื่อนร่ว...

อยากให้ลูกมีเพื่อน : 4 วิธี สอนลูกให้เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี

อยากให้ลูกมีเพื่อน

เมื่อถึงเวลาลูกเข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ย่อม อยากให้ลูกมีเพื่อน เพื่อให้ลูกสนุกและมีความสุขกับการไปโรงเรียนมากขึ้น

เด็กวัยอนุบาล เป็นช่วงวัยที่เต็มไปด้วยพลังของการเรียนรู้ ยึดตัวเองไว้เป็นศูนย์กลางจักรวาล และไม่คุ้นเคยกับการเข้าสังคม จึงปรับตัวเข้ากับคนอื่นไม่เก่ง คุณพ่อคุณแม่ที่ อยากให้ลูกมีเพื่อน จึงต้องสอนให้ลูกมีทักษะทางสังคม การอยู่ร่วมกับคนอื่น รวมถึงการทำตัวเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี

งานวิจัยล่าสุดของ Germany’s Max Planck Institute for Evolutionary Anthropology and Duke University ระบุว่า เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี จะเริ่มเข้าใจการทำงานเป็นทีม แม้ว่าจะปฏิบัติจริงไม่ได้ แต่เด็กๆ ก็พร้อมที่จะเรียนรู้เสมอเมื่อเข้าสู่วัยอนุบาล หรือช่วงอายุ 3-5 ปี เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าใจการเป็นผู้ให้และเป็นผู้รับ การแบ่งปัน และรู้จักแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ลูกพร้อมที่จะเรียนรู้วิธีทำงานกลุ่ม ทำงานเป็นทีม และการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี

Dr. Claire Halsey นักจิตวิทยาคลินิกและผู้เชี่ยวชาญด้านครอบครัวและการเลี้ยงดูบุตร ระบุว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีทักษะสังคม เรียนรู้วิธีการให้และรับ แบ่งปัน ผลัดกันเล่น และเป็นเพื่อนร่วมที่ดีได้ตั้งแต่ยังเล็กโดยไม่ต้องรอหรือกลัวว่าลูกจะเด็กเกินไป

การเรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีม จะช่วยฝึกฝนทักษะทางสังคม เช่น ความอดทน ความเห็นอกเห็นใจ การสื่อสาร ให้เกียรติ ไว้วางใจ และให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

ทักษะเหล่านี้จะทำให้ลูกเป็นที่รักของเพื่อนฝูง และจะเกิดขึ้นได้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ช่วยปลูกฝังการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีให้กับลูกตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ

1. รู้จักเล่นกับคนอื่น

GoodTeammate_web_1

Sergio Pellis นักวิจัยจาก University of Lethbridge ประเทศแคนาดา ระบุว่า การเล่นอย่างอิสระช่วยทำให้ของเซลล์สมองส่วนหน้าเชื่อมต่อกันได้ดี ยิ่งได้เล่น เซลล์สมองก็ยิ่งทำงาน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้เต็มที่ ยิ่งการได้เล่นกับผู้อื่น เช่น เล่นกับเพื่อนในสนามเด็กเล่น จะทำให้ลูกได้เรียนรู้การเป็นผู้นำและผู้ตาม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการเคารพกฎกติกาของสังคม

#เล่นกับคนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังการเป็นเพื่อนร่วมที่ดีได้ด้วยการสอนให้ลูกรู้จักการเล่นกับคนอื่น กิจกรรมที่ต้องอาศัยร่วมแรงร่วมใจในครอบครัว เช่น การวางแผนท่องเที่ยวประจำสัปดาห์ ช่วยกันทำงานบ้านหรือสร้างกิจกรรมพิเศษขึ้นมาในวันหยุด เช่น วันแสดงคอนเสิร์ต วันทำขนม วันประดิษฐ์ของขวัญ วันนักทดลอง โดยแบ่งหน้าที่ให้แต่ละคนรับผิดชอบและทำให้สำเร็จร่วมกัน

#เล่นกับเพื่อนบ้าน คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้กิจกรรมที่ลูกเคยทำกับคนในครอบครัว ไปปรับใช้เป็นกิจกรรมให้ลูกเล่นกับเพื่อนบ้านได้

2. ชมการแข่งขันกีฬาด้วยกัน

GoodTeammate_web_2

คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกวัยอนุบาลให้รู้จักดูการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่มีการเล่นแบบทีม เช่น ฟุตบอล แบดมินตันแบบคู่ วอลเล่ย์บอล หรือกีฬาที่ต้องอาศัยทีมเวิร์ก

#เป็นผู้รับชม ระหว่างการรับชม คุณพ่อคุณแม่สามารถอธิบายกติกาการแข่งขัน ชี้ชวนให้ลูกเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสนาม เช่นความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคี ความขัดแย้ง การแก้ปัญหา การเจรจาต่อรอง ฯลฯ ซึ่งเป็นทักษะที่ลูกจำเป็นต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตต่อไป

#ตั้งคำถามชวนลูกสะท้อนคิด ระหว่างดูกีฬา คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งคำถามชวนให้ลูกคิดต่อ เช่น ถ้าเพื่อนในทีมบาดเจ็บ ลูกจะทำยังไงดี, ลูกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากลูกกับเพื่อนในทีมเกิดทะเลาะกัน เพื่อให้ลูกลองใช้จินตนาการสร้างสถานการณ์สมมติ คิดวิธีแก้ปัญหา เตรียมทางออกที่ดีที่สุดเอาไว้ปรับใช้ในสถานการณ์จริงได้

3. ส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬาเป็นทีม

GoodTeammate_web_3

เพื่อให้ลูกวัยอนุบาล ได้ออกกำลังกาย ใช้พลังงาน และเรียนรู้ทักษะทางสังคม คุณพ่อคุณแม่อาจจะลองให้ลูกได้เล่นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม หรือฝึกซ้อมร่วมกับคนอื่น เช่น ฟุตบอล เทนนิส แบดมินตัน

แต่ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตความชอบและความสนใจของลูก ไม่จำเป็นต้องบังคับหรือกดดันให้ลูกต้องเล่นกีฬาที่ไม่ชอบ ไม่ถนัด แต่สามารถเปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับคนอื่นและลูกก็มีความสุขด้วยจะดีที่สุดค่ะ

4. คุณพ่อคุณแม่คือ ต้นแบบที่ดี

GoodTeammate_web_4

Rebecca Mannis ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของเด็ก และผู้ก่อตั้ง Ivy Prep แนะนำว่า เด็กๆ จะเรียนรู้วิธีการปฏิบัติต่อการทำงานเป็นทีม หรือการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีได้ดี ด้วยการได้เห็นบรรยากาศเหล่านั้นใช้ชีวิตประจำวัน และคุณพ่อคุณแม่ก็คือ ต้นแบบของการเรียนรู้ที่สำคัญ ดังนั้น นอกจากการสอนและส่งเสริมด้วยวิธีต่างๆ แล้วการทำให้ลูกได้เห็นนั่นแหละ คือวิธีที่ดีที่สุด

อ้างอิง
verywellfamily
theschoolrun
crisisprevention

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

COMMENTS ARE OFF THIS POST