นอกจากความพร้อมด้านสุขภาพ การเงิน และครอบครัวแล้ว ‘เวลา’ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องนึกถึงเพื่อการเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพ
การ แบ่งเวลาให้ลูก จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กก่อนวัยเรียน เพราะสามปีแรกของชีวิต คือช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ควรได้เป็นคนวางรากฐานการเติมโต อุปนิสัย และทักษะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตให้กับลูก
แต่ในขณะเดียวกัน การ แบ่งเวลาให้ลูก อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียเวลาในการทำงานหารายได้ให้ครอบครัว เกิดเป็นความตึงเครียด เมื่อการให้เวลากับอ่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หากพ่อแม่ทุ่มเทให้งานมากเกินไป ก็อาจเสียโอกาสในการดูแลลูก หรือหากพ่อแม่ละทิ้งหน้าที่การงานเพื่อเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว ก็อาจนำไปสู่การเสียงานและโอกาสในชีวิตด้านอื่นได้
M.O.M ลองรวบรวม 5 เทคนิค แบ่งเวลาให้ลูก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก แม้จะต้องทำงานและอาจไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลาก็ตาม
1. เลือกงานที่สามารถ Work from Home ได้บ้าง
งานวิจัยจากสถาบัน KinderCare เผยว่า 69% ของพ่อแม่ที่ทำงานรูปแบบ Work from home หรือแบบ Hybrid สามารถแบ่งเวลาคุณภาพให้ลูกได้ดีกว่า รวมถึงมีสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกงานที่มีบาลานซ์ที่ดี ยังช่วยลดความเครียดและความกดดันในการเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2. ไม่กลัวที่จะปฏิเสธการเข้าสังคม
คุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานประจำ มักคุ้นเคยกับการมีสังคมในที่ทำงาน มีการสังสรรค์หรือแฮงก์เอาต์หลังเลิกงาน รวมถึงการทำงานล่วงเวลามาก่อน
แต่เมื่อมีลูก สิ่งหนึ่งที่อาจต้องเสียไปก็คือการใช้เวลาหลังเลิกงานกับเพื่อนร่วมงาน ลดการปาร์ตี้สังสรรค์ หรือการทำงานล่วงเวลา สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่กลัวที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมทุกครั้ง ลดการทำงานล่วงเวลาที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองจริงๆ ลงบ้าง เท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เวลากลับคืนมาให้ลูกและครอบครัวมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
3. ใช้เวลาตอนเช้าและก่อนนอนให้เป็นประโยชน์
ตอนเช้าหลังตื่นนอนและก่อนส่งลูกเข้านอน เป็นนาทีทองที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะได้พูดคุยและใช้เวลาคุณภาพกับลูก ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย หยอกล้อ อ่านหนังสือ เล่านิทาน หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ กับลูกเพียงวันละ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน ก็สามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาและสนิทสนมกับลูกมากขึ้นได้
4. ถ้าจำเป็น ต้องยอมฝากลูกไว้กับญาติผู้ใหญ่บ้าง
การฝากลูกไว้กับญาติผู้ใหญ่ในเวลาที่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ในทางกลับกัน หากคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องจัดการธุระของตัวเองและดูแลลูกไปด้วย จะกลายเป็นการห่วงหน้าพะวงหลัง ทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีทั้งสองอย่าง
ดังนั้น หากมีความจำเป็น คุณพ่อคุณแม่สามารถขอความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่หรือปู่ย่าตายาย เพื่อให้ตัวเองสามารถจัดการภาระหน้าที่ให้เสร็จสิ้นแล้วกลับมาใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกโดยไม่ต้องกังวลอะไร น่าจะให้ผลที่ดีกว่า
5. หันมาทำกิจการของตัวเอง
การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำกิจการของตัวเอง อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน แต่หากคุณพ่อคุณแม่มีความพร้อมและพอมีช่องทางอยู่บ้าง การเป็นเจ้าของกิจการจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดสรรเวลาที่เหมาะสมกับครอบครัวและการเลี้ยงดูลูกได้มากขึ้น เป็นอิสระจากกรอบเวลางานทั่วไป ก็จะสามารถกลับมาเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีเวลาคุณภาพให้กับลูกได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST