ฮิคิโคโมริ (Hikikomori) หรือบางคนอาจจะเรียกว่าอาการฮิกกี้ ในปี พ.ศ. 2559 เป็นสภาวะทางจิตที่คนญี่ปุ่นเป็นมากถึง 541,000 คน นักจิตวิทยาอธิบายว่า เป็นพฤติกรรมของเด็กที่แยกตัวออกจากสังคม กลัวการเข้าสังคม ชอบกักขังตัวเองอยู่ในห้อง และพยายามหลบหนีการพบเจอผู้คนให้น้อยที่สุด

คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตว่า ลูกเป็นโรคฮิคิโคโมริหรือไม่ จากอาการต่างๆ ดังนี้ แยกตัวออกมาจากสังคมมากกว่าหกเดือน ไม่ยอมไปโรงเรียน จนเป็นสาเหตุให้มีผลการเรียนไม่ดี หมกมุ่นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งผิดปกติ เช่น อ่านแต่หนังสือการ์ตูน เล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวี หรือแม้แต่นั่งในห้องคนเดียว และเหม่อลอยเป็นระยะเวลานานๆ

แบ่งผู้ป่วยออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มแรกเกิดจากอาการป่วยที่เข้าสังคมไม่ได้ เด็กกลุ่มนี้จะมีอาการช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเล่นกับเพื่อน ไม่อยากออกจากห้อง ในขณะที่กลุ่มที่สองไม่ป่วย แต่ตัดสินใจไม่อยู่ในสังคม และจะมีอาการเป็นระยะเวลานาน

M.O.M จะมาพูดถึงกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มคนที่ไม่ถึงขั้นป่วยแต่ไม่อยากอยู่ในสังคม อาการเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไร และคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างไกลจากอาการฮิคิโคโมริ

1. เพราะถูกกดดันให้เรียนแบบเอาเป็นเอาตาย

การศึกษาที่แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้เด็กๆ ได้รับแรงกดดันทั้งจากสังคมและคนรอบข้าง ทำให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายที่ต้องพบเจอผู้คน เพราะรับมือกับความกดดันไม่ไหว จึงเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในห้องมากกว่า

2. เพราะไม่ยอมรับความผิดพลาดหรือมองว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องใหญ่

ความมุ่งมั่นในตัวเด็กและความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ ส่งผลให้ลูกเกิดความผิดหวังในตัวเอง และเลือกที่จะลงโทษตัวเองด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้อง เพื่อหนีจากความผิดหวัง รวมถึงเมื่อเกิดปัญหา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง เกิดความหวาดกลัวและหนีปัญหา

3. เพราะแตกต่างหรือโดดเด่นกว่าคนอื่น

ความแตกต่างหรือโดดเด่น ทำให้ถูกมองหรือถูกล้อเลียน ส่งผลโดยตรงต่อเด็กที่มีอารมณ์อ่อนไหวกับคำวิจารณ์ รู้สึกสูญเสียความมั่นใจและรู้สึกแย่ จึงเลือกที่จะแยกตัวออกจากสังคมเพื่อหนีปัญหา

4. เพราะความไม่เข้าใจของคุณพ่อคุณแม่

คุณพ่อคุณแม่อาจมีส่วนทำให้อาการฮิคิโคโมริของลูกหนักขึ้น เช่น เมื่อเห็นลูกเก็บตัวอยู่ในห้อง ก็แก้ปัญหาด้วยการทำอาหารไปวางไว้ให้หน้าห้อง และไม่พยายามทำให้ลูกยอมออกมาใช้ชีวิตนอกห้อง ไม่ยอมพาลูกไปรับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ บางครั้งพฤติกรรมผิดปกติของลูกอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอับอาย แต่นั่นยิ่งส่งผลร้ายกับลูกต่อไป

เลี้ยงลูกให้ถูกทาง ห่างไกลจากฮิคิโคโมริ ดังนี้

1. สร้างเวลาคุณภาพกับลูก พูดคุย  กอด และแสดงความรัก ให้ความอบอุ่นกับลูกอย่างเต็มที่
2. คุณพ่อคุณแม่ควรไว้ใจ เชื่อใจ และสร้างกำลังใจให้ลูกเชื่อมั่นว่า ลูกทำได้ แต่ไม่ใช่การกดดัน อย่างน้อยความเชื่อมั่นก็เป็นแรงเสริมให้ลูกกล้าที่จะก้าวได้ด้วยตนเอง
3. ค้นหาพรสวรรค์ของลูก การให้ลูกเรียนอย่างเดียว ไม่ก่อให้เกิดผลดีกับลูก แถมตัดโอกาสการเรียนรู้โลกภายนอก ดังนั้นควรให้ลูกได้ค้นหาความชอบของตนเอง ปล่อยให้ลูกค้นพบสิ่งที่ลูกต้องการและตามหา  โดยมีพ่อแม่คอยให้กำลังใจและเข้าใจในความชอบของลูก
4. สอนให้ลูกคิดบวก-พูดบวก การใช้คำพูดสอนลูก ให้มุมมองเรื่องทัศนคติเชิงบวก กับการใช้คำพูดทางบวก มีผลต่อลูกมาก

อ้างอิง
Amarinbabyandkids
Estopolis
Health.kapook
Goodlifeupdate