สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่หนึ่งขวบขึ้นไป เป็นวัยที่สามารถบอกหรือสื่อสารความต้องการของตัวเองได้ หากลูกยังคงมีพฤติกรรมกรี๊ด ร้องไห้งอแง หรือตะโกนเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
ความหวังดีที่เป็นต้นเหตุของการเลี้ยงดูที่เข้มงวดและไม่ถูกวิธีอาจกลายเป็นความกดดันที่คอยทิ่มแทงจนเกิดเป็นผลเสียต่อลูกในที่สุด
แล้วอะไรบ้าง ที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะเข้มงวดและจริงจังกับลูกมากเกินไป
คุณพ่อคุณแม่อาจจะนึกไม่ถึงว่า คำพูดของเราจะมีส่วนกำหนดนิสัยใจคอและอนาคตของลูก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรไตร่ตรองคำพูดที่จะใช้พูดกับลูก มีสติ และไม่ใช้อารมณ์ และคิดเสมอว่าคำพูดของเรามีผลต่อนิสัยใจคอของลูกต่อไปในอนาคต
ดังนั้นหากวันไหนที่เจ้าตัวเล็กกลับมาจากโรงเรียนและบอกกับคุณว่าที่โรงเรียนใครเป็นแฟนกับใคร หรือกระทั่งบอกกับใครๆ ว่า ‘หนูมีแฟนแล้ว’ ละก็ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการชวนลูกคุย สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนต่างเพศและความหมายของคำว่าแฟน และที่สำคัญคือ เพื่อปลูกฝังให้ลูกรู้ว่าเขาสามารถเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังได้ทุกเรื่อง
สุดสัปดาห์นี้คุณพ่อคุณแม่มีกิจกรรมสนุกๆ มาเล่นกับลูกแล้วหรือยัง ถ้ายังและกำลังมองหาเกมสนุกๆ เพื่อใช้เวลาในวันหยุดกับลูกน้อยอย่างมีคุณภาพ M.O.M ขอแนะนำ 3 เกมที่เล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากจะได้ความสนุกและเสียงหัวเราะแล้ว แต่ละกิจกรรมยังก่อให้เกิดความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ และส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกอีกด้วย
M.O.M มีเทคนิคในการรับมือ เพื่อไม่ให้การผัดวันประกันพรุ่งกลายเป็นหนึ่งในนิสัยที่ไม่น่ารักของเด็กๆ ดังนี้
ไม่ว่าจะลูกชายหรือลูกสาว คุณพ่อคุณแม่ก็จำเป็นต้องสอนให้ลูกรู้จักความสำคัญของร่างกายตนเอง และรู้วิธีที่จะปกป้องตัวเองจากคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า หรือแม้แต่คนใกล้ตัวที่คุ้นเคย ก็ควรสอนให้ลูกระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวโดยไม่จำเป็น M.O.M รวบรวมเทคนิค 5 ข้อ ให้คุณพ่อคุณแม่นำมาสอนลูกให้ระมัดระวังตัวเอง ดังนี้
- 1
- 2
- 3
…
- 21
- Next Page →