เด็กในวัยหัดเดิน (ช่วงวัย 2-3 ปี) ถือเป็นวัยวัยแห่งการล้มลุกคลุกคลาน เพราะพัฒนาการหลายอย่างจะเริ่มแสดงออกมาให้เห็นได้ในช่วงวัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทรงตัว เดิน วิ่ง กระโดดโลดเต้น และยังเป็นช่วงวัยที่เด็กต้องการเรียนรู้และทดสอบศักยภาพทุกด้านของตัวเอง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่เต็มเปี่ยม ทำให้พฤติกรรมของลูกวัยนี้กลายเป็นเรื่องยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะอยู่ดีๆ ลูกก็อาจจะอยากลองขว้างปาสิ่งของ ตี จิก กระโดด วิ่งพล่าน หรือแม้แต่กรีดร้องเสียงดังขึ้นมาเฉยๆ
การเอาลูกน้อยเข้านอนสามารถแบ่งออกเป็นสองวิธี ได้แก่ No-cry method หมายถึงการให้ลูกน้อยนอนหลับลงได้โดยไม่ต้องมีซีนดราม่าเสียน้ำตา แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยการที่คุณแม่ต้องคอยอุ้มและกล่อมลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขนจนหลับไป แล้วค่อยพาลูกไปวางลงบนที่นอน ส่วนอีกวิธีก็คือ Cry it out method วิธีนี้คุณแม่จะไม่ต้องอุ้มหรือกล่อมลูกใยอ้อมแขน แต่เมื่อถึงเวลานอน ก็วางลูกลงบนที่นอน หากลูกร้องก็ปล่อยให้ลูกร้องจนหลับไป โดยมีคุณแม่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ลุกลามไปทั่ว และดูจะทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากจะมีผลกระทบต่อกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัวแล้ว กลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสำคัญที่น่าเป็นห่วง เพราะร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง การทำงานของระบบภายในร่างกายจึงแตกต่างจากคนทั่วไป วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญ และเรื่องน่ารู้ ของเจ้าเชื้อไวรัสตัวร้าย ที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ ไปดูกัน
นอกจากเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของลูก จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นใจและมีความสุข การหัวเราะยังมีประโยชน์ต่อร่างกายทารก เพราะเมื่อลูกหัวเราะ ปอดและหัวใจของทารกจะส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ร่างกายหลังฮอร์โมนเอนโดรฟิน เด็กที่หัวเราะและยิ้มง่าย ก็จะเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีต่อไป
- 1
- 2
- 3
- 4
- Next Page →