นิยามของนิสัยผัดวันประกันพรุ่งในเด็ก คือการไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จตามวันหรือเวลาที่ได้รับมอบหมาย เช่น มีการบ้านต้องส่งพรุ่งนี้เช้า แต่วันนี้ก็ยังห่วงเล่นสนุก คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาทำการบ้านก่อนไปโรงเรียนก็ได้
หรือบ่อยครั้งที่คุณบอกให้ลูกช่วยทำงานบ้าน แต่ลูกมักจะตอบกลับมาว่าว่า ‘เดี๋ยวก่อน’ พฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่งเช่นนี้ ถ้าปล่อยให้ฝังลึกจนกลายเป็นนิสัยจะส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต
M.O.M มีเทคนิคในการรับมือ เพื่อไม่ให้การผัดวันประกันพรุ่งกลายเป็นหนึ่งในนิสัยที่ไม่น่ารักของเด็กๆ ดังนี้
1. ช่วยจัดตารางการทำการบ้านและจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ให้ลูก

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกจัดตารางสำหรับทำการบ้าน ถ้ามีงานชิ้นใหญ่และใช้เวลานาน ลองแบ่งงานออกเป็นชิ้นย่อยๆ จะช่วยให้ลูกอยากทำงานให้สำเร็จมากขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ลูกรู้จักจัดลำดับและจัดตารางเวลาสำหรับงานที่ต้องทำ เด็กส่วนใหญ่มักจะรู้สึกพอใจเมื่อได้เห็นว่าตัวเองทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง
นอกจากนี้ ควรจัดงานที่ยากหรือวิชาที่ลูกไม่ถนัดก่อนงานที่ง่าย เพราะเมื่อลูกทำงานที่ยากสำเร็จ จะมีแรงกระตุ้นในการอยากทำงานที่เหลือต่อไป
และในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกช่วยทำงานบ้าน ควรมอบหมายหน้าที่ให้รับผิดชอบไม่ใช่สั่งให้ทำทันที เช่น ล้างจานทุกเย็น ถูบ้านทุกวันเสาร์ หรือเก็บห้องทุกอาทิตย์ เพื่อฝึกความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง
2. สอนลูกให้คิดถึงเหตุผล ทำไมถึงควรรีบทำงานให้เสร็จ

ให้ลูกนึกถึงผลที่ตามมาจากการทำงานไม่สำเร็จ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น ในระยะสั้นจะโดนคุณครูตำหนิ ส่วนในระยะยาวจะทำให้ผลการเรียนปลายภาคไม่ดี และคุณพ่อคุณแม่ควรทำให้ลูกเห็นข้อดีของการทำงานสำเร็จตามเวลาหรือเร็วกว่าเวลาที่กำหนด เช่น ลูกจะสบายใจและมีเวลาเหลือพอที่จะออกไปทำอะไรสนุกๆ นอกบ้านเพิ่มมากขึ้น
3. กำจัดสิ่งเร้าที่เป็นอุปสรรคในการทำงานของลูก

ขณะที่ลูกกำลังทำการบ้าน ควรปิดสิ่งเร้าที่จะไปทำลายสมาธิของลูก ไม่ว่าจะเป็น เกม โทรทัศน์ หรือโทรศัพท์มือถือ
4. ให้รางวัลเมื่อลูกทำงานสำเร็จ

คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีตั้งรางวัลให้ลูกก่อนเริ่มทำงาน ไม่จำเป็นต้องสิ่งของจริงจัง แต่อาจรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เช่น อ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือให้เวลาเล่นของเล่นมากขึ้น เพื่อให้ลูกมีแรงจูงใจและมีกำลังใจในการทำงานให้สำเร็จมากขึ้น
5. คอยกระตุ้นความรับผิดชอบให้ลูก

คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้ลูกมีความรับผิดชอบ ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นสม่ำเสมอ เช่น เมื่อคุณรับปากกับลูกว่าจะอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนคืนนี้ ก็ต้องทำตามสัญญา ไม่ขอเลื่อนเวลาออกไปเป็นวันอื่น ลูกก็จะเรียนรู้พฤติกรรมนั้นจากคุณพ่อคุณแม่ เพราะเมื่อลูกใช้เวลาอยู่กับคนที่มีวินัย มีความรับผิดชอบ และตรงเวลา ลูกก็จะซึมซับนิสัยเหล่านั้นมาปฏิบัติตามอย่างแน่นอน
COMMENTS ARE OFF THIS POST