เมื่อลูกเติบโต เริ่มต้องเข้าโรงเรียน มีเพื่อน มีชีวิต มีสังคมใหม่ๆ ของตัวเอง พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเจอแต่คนดีๆ และใจดีกับลูกเหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ทำมาตลอด
แต่ความเป็นจริง โลกภายนอกไม่ได้มีแต่คนที่พร้อมจะใจดีกับทุกคน ลูกอาจต้องเผชิญกับคนเอาเปรียบ คนเห็นแก่ตัว คนพูดจาทำร้ายจิตใจ และไม่อ่อนโยนอย่างที่คาดหวัง ดังนั้น การ สอนลูกให้เข้าใจโลก จึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกมีภูมิคุ้มกันเมื่อต้องเจอผู้คนและสังคมที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
คุณพ่อคุณแม่สามารถ สอนลูกให้เข้าใจโลก ได้ด้วยการเพิ่มทักษะการยอมรับและปรับตัว ด้วย 5 เทคนิคสำคัญ ดังนี้
1. สอนให้ลูกมั่นใจในตัวเอง
ความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้ลูกกล้าคิด กล้าตัดสินใจเลือกสิ่ง ที่เหมาะกับสมกับตัวเอง ไม่ยอมอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกลั่นแกล้ง รังแก หรือเอาเปรียบได้ง่าย
พื้นฐานความมั่นใจในตัวเอง เกิดจากการรู้จักพึ่งพาตัวเอง และเห็นคุณค่าของตัวเอง หากคุณพ่อคุณแม่หัดให้ลูกดูแลตัวเอง หรือมีหน้าที่รับผิดชอบตั้งแต่ยังเด็ก จะทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง และเติบโตเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ กล้าคิด กล้าทำต่อไป
2. ความล้มเหลวคือเรื่องปกติ
ตอนเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่อาจพยายามปกป้องลูกจากความผิดพลาด ผิดหวัง หรือเสียใจ เช่น อะไรที่กลัวว่าลูกจะทำไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยทำแทน แต่เมื่อลูกโตขึ้น การสอนให้ลูกยอมรับความผิดพลาดและล้มเหลวด้วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องจำเป็น
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเข้าใจว่า “ไม่เป็นไรเลยที่ลูกจะผิดพลาดหรือล้มเหลว เพราะมันจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ และไม่ผิดพลาดซ้ำอีก” และยกตัวอย่างสถานการณ์ที่คุณพ่อคุณแม่ก็เคยล้มเหลวหรือผิดพลาดมาก่อน และคุณพ่อคุณแม่รับมืออย่างไร
นอกจากจากจะสอนให้ลูกยอมรับความผิดพลาดและล้มเหลวของตัวเองแล้ว อย่าลืมสอนให้ลูกเห็นอกเห็นใจ และไม่ซ้ำเติมความผิดพลาดของคนอื่นด้วยนะคะ
3. สอนให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลง
การไม่ยอมรับและไม่ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง จะทำให้ลูกอยู่ในสังคมได้ยาก เพราะไม่สามารถเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ไม่สามารถเข้าสังคมใหม่ที่ตัวเองไม่คุ้นเคยได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกออกไปรับประสบการณ์ใหม่ ผู้คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ให้ลูกได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมที่หลากหลาย รู้จักปรับตัวและยืดหยุ่นในสถานการณ์ต่างๆ ได้
4. รู้จักขอบเขตของตัวเองและผู้อื่น
พื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม คือ การเคารพและไม่ก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหรือทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ซึ่งพื้นฐานนิสัยนี้ต้องเริ่มตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ฝึกให้ลูกเข้าใจขอบเขตของตัวเองเสียก่อน ด้วยการสร้างข้อปฏิบัติเล็กๆ ในบ้าน เช่น ทุกคนจะต้องเคาะประตู เมมื่อต้องการเข้าไปในห้องคนอื่น และไม่เข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่เปิดพัสดุหรือหยิบสิ่งของคนอื่นโดยพลการ เมื่อลูกเข้าใจเรื่องพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองและคนในครอบครัว ลูกจะเรียนรู้เรื่องสิทธิ พื้นที่ส่วนตัว และการเคารพคนอื่นในสังคมต่อไปได้
5. รู้จักการปฏิเสธคนอื่น
หนึ่งในวิธีการป้องกันตัวเองจากการถูกเอาเปรียบ รังแก หรือคุกคามจากบุคคลที่ไม่หวังดี คือการหัดปฏิเสธให้เป็น โดยคุณพ่อคุณแม่อาจลองยกตัวอย่างสถานการณ์ที่ลูกไม่ชอบและอยากปฏิเสธ มาฝึกวิธีการพูดปฏิเสธให้กับลูก เช่น เมื่อมีเพื่อนมาขอให้ลูกทำการบ้านให้ ลูกไม่อยากทำและเห็นว่าไม่ถูกต้อง ลูกจะบอกเพื่อนว่าอย่างไร ลองให้ลูกคิดทางออกด้วยตัวเองก่อน โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้คำแนะนำ เช่น แทนที่ลูกจะบอกเพื่อนว่าไม่อยากทำ ลองอธิบายเพิ่มเติมว่าทำไมทุกคนถึงควรทำการบ้านด้วยตัวเอง
ที่สำคัญก็คือลูกต้องไม่ใช้การปฏิเสธในการทำร้ายหรือรังแกคนอื่น เช่น ไม่ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือคนอื่นในเรื่องง่ายๆ ที่ไม่เดือดร้อนตัวเอง และลูกเองก็ต้องเตรียมใจที่จะเป็นฝ่ายถูกปฏิเสธด้วยเช่นกั
COMMENTS ARE OFF THIS POST