สำนวนไทยที่ว่า ‘รักวัวให้ผูก รักลูกให้ดี’ อาจทำให้เราคุ้นเคยกับการทำโทษเด็กด้วยการตี หรือใช้วิธีรุนแรงเพื่อสร้างความเกรงกลัว

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจก็คือ เมื่อ ลูกถูกครูทำโทษ ย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ของลูกตามไปด้วย ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ทราบว่า ลูกถูกครูทำโทษ ที่โรงเรียนแล้วละก็ คุณพ่อคุณแม่ควรยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการปลอบโยน รับฟัง หรือแม้แต่การปกป้องไม่ให้ลูกต้องถูกลงโทษด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม หรือรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วย

ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรรับมือกับการที่ลูกถูกทำโทษมาจากโรงเรียนได้อย่างไร ลองมาเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้าใจไปพร้อมกันค่ะ

1. หมั่นสังเกตร่างกาย พฤติกรรมของลูก

เมื่อลูกถูกคุณครูทำโทษรุนแรง เช่น โดนทำร้าย โดนตี อาจสามารถมองเห็นบาดแผลภายนอกที่ถูกกระทำได้ แต่บาดแผลภายในจิตใจ อาจต้องใช้การสังเกตพฤติกรรมของลูก เช่น ลูกมีอาการเศร้าซึม วิตกกังวล ไม่อยากไปโรงเรียน มีพฤติกรรมถดถอย มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หากพบความผิดปกติของลูกทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมแล้ว ควรรีบพูดคุยกับลูก และปรึกษาเพื่อขิความช่วยเหลือจากจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

2. รับฟังลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อรู้ว่าลูกถูกคุณครูทำโทษ คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มจากการถามว่าลูกทำอะไรผิด ลูกดื้อ หรือเป็นเพราะลูกไม่ฟังคุณครูใช่หรือเปล่า

แต่ความจริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้คำถามที่เป็นเหมือนการตัดสินว่าลูกถูกทำโทษเพราะลูกทำไม่ดี แต่ควรรับฟังให้ลูก เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและปกป้องเขาอยู่เสมอ แล้วค่อยวิเคราะห์เหตุผลเพื่อหาทางรับมือในขั้นต่อไป เช่น การถามคุณครูถึงเหตุผลที่ทำโทษลูก

3. พาลูกออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ

หากลูกถูกครูทำโทษรุนแรง หรือโดนทำโทษมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่ควรประเมินว่าสภาพแวดล้อมเดิมๆ จะส่งผลให้ลูกต้องเสียใจ และส่งผลกระทบต่อจิตใจและการดำเนินชีวิตของลูกหรือไม่ และอาจต้องแก้ไขด้วยการพาลูกออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิม เช่น ย้ายห้องเรียนที่ไม่ต้องเจอคุณครูคนเก่า หรือย้ายโรงเรียน

แต่ทั้งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร คุณพ่อคุณแม่ควรถามความสมัครใจของลูกว่าเต็มใจหรือพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

4. ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจกับลูก

เมื่อลูกถูกลงโทษรุนแรง หรือถูกทำโทษต่อหน้าคนอื่น อาจทำให้ลูกอยู่ในสภาวะสูญเสียความมั่นใจ คุณพ่อคุณแม่จึงควรสร้างความมั่นใจกลับคืนให้ลูก ด้วยการทำให้ลูกมองเห็นคุณค่าและข้อดีของตัวเอง สอนให้ลูกรู้และเข้าใจว่าสังคมโรงเรียนไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิตลูก และไม่ว่าอย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่จะคอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

อ้างอิง
GreatSchools.org
wiserread