READING

ลูกการบ้านเยอะ : การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็ก (เล็ก)...

ลูกการบ้านเยอะ : การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็ก (เล็ก) อยู่หรือไม่?!

ลูกการบ้านเยอะ

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คุ้นเคยมานาน ก็คือเมื่อไปโรงเรียนกลับมา การบ้าน คือสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกได้ฝึกฝนและทบทวนบทเรียนในแต่ละวัน การบ้านยิ่งเยอะ ก็ยิ่งส่งผลดีต่อการเรียนของลูกมากขึ้น

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป พ่อแม่และผู้ปกครองส่วนมากเริ่มเข้าใจว่า ธรรมชาติของเด็กเล็กคือการเรียนรู้ผ่านการเล่น มากกว่าความเข้มงวดทางวิชาการและบทเรียนในหนังสือ เราจึงมักเห็นคุณพ่อคุณแม่หลายคนรู้สึกไม่สบายในเมื่อเห็นว่า ลูกการบ้านเยอะ และยากเกินความจำเป็นไปหรือไม่

ในขณะที่เมื่อพูดถึงเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก คงปฏิเสธที่จะพูดถึงประเทศฟินแลนด์ไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยได้ยินว่า ฟินแลนด์เป็นประเทศที่เด็กๆ ไม่เคยมีการบ้าน แต่ข้อมูลจาก Nina Nordman วิทยากรและผู้เชี่ยวชาญในวงการครูและการศึกษาจากประเทศฟินแลนด์ได้กล่าวไว้ในงานสัมมนา เมื่อปี 2019 ว่า ความจริงแล้ว คุณครูมักจะให้เด็กนักเรียนในวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี เพื่อให้เด็กๆ ได้พักผ่อนในวันเสาร์อาทิตย์อย่างเต็มที่ และสิ่งที่น่าสนใจก็คือการให้การบ้านของครูฟินแลนด์ก็จะยึดตามพัฒนาการของเด็กเป็นสำคัญ นั่นหมายความว่าการบ้านทุกชิ้นจะต้องเป็นงานที่เด็กสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องพ่อแม่เข้ามาช่วย

มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน The American Journal of Family Therapy ในปี 2015 ผลสำรวจจากผู้ปกครองและลูกในวัยเรียนมากกว่า 1,100 คนในรัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กอนุบาลใช้เวลา 25 ​​นาทีก่อนนอนไปกับการทำการบ้าน ในขณะที่เด็กนักเรียนชั้นประถม 1 และประถม 2ต้องใช้เวลาทำการบ้านก่อนนอนเป็นเวลา 28-29 นาที

นอกจากนั้น ผลการศึกษายังระบุว่าเด็กวัยอนุบาลไม่จำเป็นต้องมีการบ้าน และการบ้านที่มากหรือยากเกินไปจะส่งผลให้เกิดความเครียดกับเด็กและครอบครัวได้

ดังนั้น การคาดหวังว่า ลูกการบ้านเยอะ แปลว่าจะได้ทบทวนความรู้มากขึ้น อาจเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่และคุณครูจะต้องทบทวนถึงความจำเป็นและเหมาะสมของปริมาณและความยากง่าย เพื่อไม่ให้การบ้านที่ควรมีประโยชน์กลายเป็นปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางความสุขในการเรียนรู้ของลูกอีกต่อไป

1. การบ้านเยอะ จนเกิดความเครียดสะสม ทำให้มีปัญหาสุขภาพอื่นตามมา

Homework_web_1

การบ้านที่เยอะและยากจนไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ จะทำให้เด็กเกิดความเครียด และเมื่อมีความเครียดสะสมก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อการเรียน ไม่อยากทำการบ้าน และไม่อยากมาโรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้นความเครียดสะสมในเด็กยังทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้

2. การบ้านเยอะ จนเด็กไม่ได้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง

Homework_web_2

หลายโรงเรียนมีความเชื่อว่าการให้การบ้านเด็กเยอะๆ จะช่วยฝึกวินัยและความรับผิดชอบได้ แต่ถึงอย่างนั้น การบ้านที่ล้นมือเด็กมากเกินไป จะทำให้เด็กต้องรีบเร่งทำการบ้านแต่ละวิชาให้ผ่านพ้นไปโดยไม่ได้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง นอกจากนี้ยังทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรอีกด้วย

3. มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการไปโรงเรียน

Homework_web_3

นักวิจัย จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่าเด็กไทยเรียนหนักที่สุดในโลกรองจากญี่ปุ่น ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนลาออกกลางคันปีละ 900,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น การที่โรงเรียนมอบหมายภาระงานที่เยอะและยากมากจนเกินไป อาจก่อให้เกิดความเหนื่อยล้า และเริ่มรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนอีกต่อไป

4. ทำให้เด็กมีทักษะบริหารเวลาที่ไม่ดี

Homework_web_4

เด็กที่การบ้านเยอะเกินไป จะสูญเสียโอกาสในการเล่นหรือใช้เวลาค้นหาความชอบและความถนัดด้านอื่นๆ เพราะเสียเวลาและพลังงานไปกับการทำการบ้านจนเหนื่อยล้า และยังส่งผลให้เด็กละเลยการการทำกิจวัตรประจำวันอื่นๆ เช่น ออกกำลังกาย ช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน จัดเก็บโต๊ะของตัวเอง กลายเป็นเด็กที่ขาดระเบียบและมีทักษะการบริหารจัดการเวลาไม่ดีเท่าที่ควร

 

อ่านบทความ: ลูกไม่อยากทำการบ้าน… สาเหตุเป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่านะ?
อ้างอิง
warnerpacific
OFY Education blog
thairath
siamrath
PPTVHD36

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST